เวลาที่สำคัญที่สุดที่จะลงทุนสร้างครอบครัวที่เข้มแข็ง และมิตรภาพที่ใกล้ชิดนั้น
คือเมื่อดูจากภาพภายนอกแล้วเหมือนไม่จำเป็นต้องทำ
( – จากหนังสือหน้า 95 )
✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน
เคลย์ตัน เอ็ม. คริสเตนเซน ที่ปรึกษาด้านวิชาการและธุรกิจชาวอเมริกันผู้พัฒนาทฤษฎี Disruptive Innovation ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นแนวคิดธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดในต้นศตวรรษที่ 21 ในปี 2011 หนังสือเล่มแรกของเขา Innovator's Dilemma ได้รับรางวัล Global Business Book Award และต่อมามันก็ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังสือธุรกิจหกเล่มที่สำคัญที่สุดจากนิตยสาร The Economist และยังมีชื่อในฐานะนักคิดทางธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกซึ่งจัดอันดับทุกสองปีโดย Thinkers50 เจมส์ ออลเวิร์ธ จบการศึกษาจากวิทยาลัยธุรกิจฮาร์วาร์ด (ได้รับเลือกให้เป็น Baker Scholar) และจากมหาวิทยาลัยแห่งออสเตรเลีย เคยทำงานที่ Booz&Company และ Apple คาเรน ดิลลอน อดีตบรรณาธิการวารสาร Harvard Business Review จบมหาวิทยาลัยคอร์เนลและโรงเรียนการหนังสือพิมพ์เมดิลแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ปี 2011 เธอได้รับเลือกการองค์กร Ashoka ให้เป็นหนึ่งในสตรีที่สร้างแรงบันดาลใจและทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
🎯 มุมมองสรุป
: ‘ทฤษฎีที่ดีสามารถช่วยเราจัดประเภท อธิบาย และพยากรณ์ได้’ ด้วยมุมมองของผู้เขียน ทำให้การนำเสนอภายในเล่มจะเป็นไปอย่างคู่ขนานระหว่างกรณีศึกษากับวิธีที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิต ทั้งในเรื่องงาน ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและการเลี้ยงดูบุตร : อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดจากหนังสือคือการช่วยให้ผู้อ่านได้หวนคิดถึงชีวิตของตนเอง รวมถึงวิธีที่จะทำให้มองเห็นภาพการให้ความสำคัญของชีวิตตนเองได้ชัดเจนขึ้น ไปจนกระทั่งช่วยให้ผู้อ่านสร้างโครงร่างที่แท้จริงของชีวิตขึ้นมาใหม่ ผ่านมุมมองทางทฤษฎีแบบธุรกิจที่คนส่วนใหญ่อาจไม่คิดว่ามันจะสามารถนำมาปรับใช้กับการออกแบบวิถีทางในการดำเนินชีวิต : เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทใหญ่ ได้แก่ การค้นหาความสุขในงานอาชีพ การค้นหาความสุขในความสัมพันธ์ และการอยู่ให้ห่างไกลคุก ซึ่งทั้งหมดประกอบไปด้วย 10 บท ดังนี้ (1) เพียงเพราะคุณมีขนนก (2) สิ่งที่เป็นแรงจูงใจเรา (3) สมดุลระหว่างการคิดคำนวณกับโชคช่วย (4) ยุทธศาสตร์ของคุณไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด (5) นาฬิกาที่เดินไปข้างหน้า (6) คุณจ้างมิลค์เชคนั่นทำงานอะไร? (7) ให้ลูก ๆ ของคุณล่องเรือของเธเซอุส (8) โรงเรียนแห่งประสบการณ์ (9) มือที่มองไม่เห็นในครอบครัวคุณ (10) แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว : เรารู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สร้างมุมมองบางอย่างที่ต่างไปจากหนังสือจิตวิทยาหรือพัฒนาตนเองทั่วไป ในแง่หนึ่งมันอธิบายการประยุกต์ใช้ทฤษฎีธุรกิจเข้ากับการออกแบบชีวิต ทำให้หลาย ๆ เรื่องจึงอดไม่ได้ที่จะเห็นพ้องไปกับวิธีการเหล่านั้น ในขณะที่จังหวะการเรียบเรียงเพื่อเปรียบเทียบมุมมองของทฤษฎีก็ได้กลายเป็นแนวทางให้เราเรียนรู้วิธีปรับใช้ข้อมูลต่าง ๆ สำหรับเรื่องอื่น ๆ ไปด้วย : ส่วนตัวเราเคยมีความเชื่อที่ว่าการเรียนรู้ทฤษฎีไม่มีทางเทียบเท่าได้กับประสบการณ์จริง แต่เราเองก็ไม่ได้อยากที่จะรอเรียนรู้จากความผิดพลาดเพียงเท่านั้น และดังที่ผู้เขียนกล่าวไว้ภายในเล่ม มันไม่มีคำตอบถูกต้องคำตอบเดียวที่ใช้ได้กับทุกสภาวะแวดล้อม และวิธีที่จะตรวจสอบว่าคุณจะเชื่อทฤษฎีใดได้หรือไม่ก็คือการมองหาบางอย่างที่ผิดปกติและทฤษฎีนั้นอธิบายไม่ได้
ว่ากันตามจริงแล้วการเลือกดำเนินชีวิตนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่คงไม่มีใครหรือทฤษฎีใดมาชี้นำให้เราเจริญรอยตามแล้วค้นพบว่าปลายทางจะเป็นบทสรุปแบบเดียวกัน ด้วยเพราะสภาพแวดล้อมของแต่ละคนย่อมแตกต่าง และระหว่างทางก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องของเวลาที่เดินไปข้างหน้าอยู่เรื่อย ๆ
หนังสือเล่มนี้เป็นอีกหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องของการดำเนินชีวิตเหล่านั้น มันถูกผนวกเข้ากับทฤษฎีทางธุรกิจที่ดูเหมือนจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันกับความสัมพันธ์หรือการตัดสินใจในวิชาชีพ ทว่าการเรียบเรียงถ่ายทอดกลับดูเป็นเหตุเป็นผลกันอย่างประหลาด สุดท้ายมันจึงกลายเป็นหนังสือที่อธิบายทฤษฎีที่เอาไปใช้ได้ทั้งกับเรื่องงานและความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการมองมุมไหน
ภายใต้ทฤษฎีแรงจูงใจที่ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง
เราทุกคนล้วนประกอบอาชีพเพื่อแลกค่าตอบแทนในการดำรงชีวิต แต่หากต้องการความสุขจากโลกของวิชาชีพเราอาจต้องมองให้ลึกไปมากกว่าเรื่องผลตอบแทนชนิดที่จับต้องได้ มีทฤษฎีหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องแรงจูงใจ ซึ่งเป็นแรงผลักดันภายในที่ทำให้คนทำบางสิ่งบางอย่างเพราะพวกเขาอยากทำ แต่ไม่เพียงเท่านั้น ทฤษฎีนี้จากหนังสือได้แยกออกมาอีก 2 ส่วนประกอบ เรียกว่า ‘ปัจจัยสุขลักษณะ’ และ ‘ปัจจัยแรงจูงใจ’ และ เงินคือปัจจัยสุขลักษณะ เป็นปัจจัยที่จะต้องจัดการให้ถูกต้องเฉกเช่นเดียวกับปัจจัยสุขลักษณะอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกปลอดภัยและความสบายใจในสภาพแวดล้อม หรือความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่เพื่อให้คุณรักงาน แต่เพื่อให้คุณไม่ต้องเกลียดมันอีกต่อไป
การรวบรัดจัดหมวดหมู่ให้เงินหรือผลตอบแทนเป็นแรงจูงใจหรือสิ่งจูงใจอาจผลักดันให้คุณก้มหน้าก้มตาทำงานโดยปราศจากคำถามและหลงลืมคำตอบที่ให้ไว้กับตัวเองว่าชีวิตที่คุณต้องการแท้จริงแล้วเป็นแบบไหนกันแน่?
ฝึกวางแผนไปตามสิ่งที่ค้นพบบ้าง
ในยุคสมัยบุกเบิกที่ฮอนดาเริ่มบุกตลาดรถจักรยานยนต์ของสหรัฐอเมริกา เดิมทีพวกเขามีแผนการที่จะผลิตรถคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ใหญ่ในตลาดขณะนั้นแต่ขายในราคาที่ต่ำลงอันเนื่องมาจากข้อได้เปรียบของค่าจ้างแรงงานตนที่ถูกกว่า หากเขายังยึดมั่นในยุทธศาสตร์เดิมนั้นก็อาจทำให้ฮอนดาล้มเหลวไปแล้ว แต่ในวินาทีที่กำลังเสียเปรียบ พวกเขากลับค้นพบโอกาสของรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กเข้าด้วยความบังเอิญและทดลองเส้นทางใหม่ที่ไม่อยู่ในแผน ฉะนั้นระหว่างที่คุณยังคงคิดทบทวนเกี่ยวกับหน้าที่การงานและอาชีพ จงอย่าปล่อยให้แผนการตีกรอบหรือตรึงคุณไว้จนไม่กล้าขยับไปไหน เปิดพื้นที่ในชีวิตไว้บ้าง เพราะบางครั้งระหว่างทางอาจมีโอกาสเข้ามาและพาคุณไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้อย่างไม่คาดคิด
จัดสรรทรัพยากรชีวิตไปในทิศทางเดียวกันกับที่คุณให้ความสำคัญ
ทุกคนมีทุกอย่างที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นเวลา พลัง เงิน หรือสุขภาพ อย่าลืมสำรวจว่าคุณได้จัดสรรมันอย่างถูกต้องสอดคล้องไปกับเป้าหมายใหญ่ ๆ ในชีวิต เพราะบางครั้งคนเรามักเผลอกระทำสวนทางกับเจตนารมณ์ของตนด้วยการให้ความสำคัญกับสิ่งหนึ่งแต่ใช้ทรัพยากรไปกับอีกสิ่งหนึ่งมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็ต้องระวังการจัดลำดับความสำคัญในการลงทุนทรัพยากรของคุณด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์กับลูก ๆ เพราะเราไม่อาจชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้วได้อีกด้วยอะไรก็ตามที่คุณพลาดจะมอบให้ในเวลาที่เหมาะสม
สิ่งที่จะช่วยให้มาตรวัดของคุณเที่ยงตรง
มันอาจเป็นหนังสืออีกเล่มที่ชวนให้คุณทบทวนชีวิตอีกครั้งในวันที่รู้สึกว่าตนเองเดินสะเปะสะปะและไร้ทิศทางทั้งในเรื่องอาชีพการงานและการสร้างครอบครัว มันไม่ใช่เรื่องง่ายและอาจไม่มีอะไรที่ง่ายเลยสักนิด ทุกอย่างจะซับซ้อนและชวนให้ดูราวกับว่าผิดที่ผิดทางในบางครั้ง สำหรับเราแล้วหนังสือเล่มนี้ได้ให้มุมมองการจัดการจุดมุ่งหมายและวางแผนกลยุทธ์ของชีวิตต่อจากนี้ สิ่งที่เราทำอาจแปะป้ายประกาศถึงเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างแท้จริงแต่กลับเป็นคนละสิ่งกับที่คิดไว้ในหัว ฉะนั้นการทบทวนให้แน่ใจว่าแผนที่เรามีและวิธีที่เราใช้นั้นสอดคล้องกันก็จะทำให้มาตรวัดของเราไม่ผิดพลาด – ไม่ใช่การวัดผนังห้องหรือเพดานด้วยไม้บรรทัดขนาด 1 ฟุต เพราะถึงแม้มันจะใช้แทนกันได้ แต่พวกเราทุกคนรู้ดีว่ามันมีอุปกรณ์อื่นที่เหมาะสมกว่า
“สุดท้ายแล้ว ยุทธศาสตร์ไม่มีอะไรเลยนอกจากความตั้งใจดี เว้นแต่มันจะถูกดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ” – Clayton M. Christensen
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
“อ่านเกมชีวิตให้ขาด (How Will You Measure Your Life?)”
ผู้เขียน : Clayton M. Christensen, James Allworth & Karen Dillon
(วิภาดา กิตติโกวิท แปล)
จำนวนหน้า : 240 หน้า / ราคาปก : 280 บาท
สำนักพิมพ์ : OMG BOOKS
หมวด : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง