“ความเครียด” สำหรับบางคนเกิดขึ้นมาโดยมีสาเหตุที่สามารถระบุได้ และเมื่อเรากำจัดต้นเหตุนั้นทิ้งไปหรือหาทางออกให้กับมันได้ ทุกอย่างก็ดูคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ความเครียดที่เรากำลังเอ่ยถึงวันนี้ อาจเป็นความเครียดจากความคิด จากเหตุการณ์ ที่เราเองยังไม่สามารถรับมือกับมันได้ในทันที หรือจำเป็นจะต้องทนอยู่กับมันไปอีกสักระยะ
แล้วจะทำยังไงดีนะ? … ที่จะคลายความเครียดและความกังวลนั้นให้เบาบางลงบ้าง หรือกำจัดให้หายไปได้ยิ่งดี
วันนี้เราเอาวิธีส่วนตัวที่เราใช้เองมาแนะนำกันค่ะ : )
เมื่อเกิดสภาวะความเครียดในจิตใจ และเป็นสิ่งที่เรายังไม่สามารถคิดหากระบวนการแก้ไขมันได้ตอนนี้ หรือเป็นความเครียดและความวิตกกังวลจากสถานการณ์การรอคอยบางอย่างที่ยังไม่ถึงกำหนดการรับรู้ผลของมันที่จะช่วยให้เราคลายความกังวลนั้น ๆ ลงได้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีรับมือกับมันอย่างสร้างสรรค์ ประการแรกเพื่อให้เราไม่หมกมุ่นกับมันจนอาจทำให้ตัดสินใจอะไรผิดพลาด และประการที่สองคือเพื่อทะนุถนอมหัวใจของเราที่มันเองก็คงเหน็ดเหนื่อยจากสภาวะดังกล่าวอยู่แล้ว
วิธีของเราที่จะแนะนำวันนี้ คือ “การทำความสะอาดและจัดระเบียบบ้าน” ค่ะ (^^)
…โอยยย ใครจะไปมีอารมณ์ทำกัน
… ฉันเครียดอยู่นะ ฉันไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นแหละ
… นี่ไม่ใช่วิธีที่ดีแน่ ๆ ฉันได้ทำลายข้าวของกระจัดกระจายแน่ ๆ ถ้าให้จัดบ้านหรือทำความสะอาดตอนนี้!
หลายคนอาจรู้สึกคล้ายกันกับคำกล่าวข้างต้นนั้น จะว่าไปคนเรามีวิธีจัดการความเครียดในแบบฉบับของตนเองที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากคุณยังอยากลองวิธีที่ไม่เหมือนเคยหรือยังหาทางออกของการบรรเทาความเครียดไม่ได้ ลองดูก็ไม่เสียหายนะคะ : ) (เว้นแต่คุณจะอาละวาดกวาดทิ้งทุกอย่าง อันนั้นเสียหายแน่ ^^” )
วิธีนี้เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เรากำลังเผชิญกับสภาวะความเครียด แล้วก็ชวนให้นึกถึงการทดลองหนึ่งที่ ชิออน คาบาซาวะ เคยอ้างถึงไว้ในหนังสือชื่อดังของเขา เรื่อง “The Power of Output (ศิลปะของการปล่อยของ)” เขาเล่าถึงการทดสอบหนึ่งเกี่ยวกับการกระตุ้นกระแสไฟฟ้าใส่หนู 2 ตัวซึ่งถูกขังอยู่คนละกรง โดยมีเพียงหนูกรงเดียวเท่านั้นที่มีปุ่มสำหรับหยุดกระแสไฟฟ้าได้ หากหนูเหยียบที่ปุ่มหยุดจะส่งผลให้กระแสไฟฟ้านั้นหยุดจ่ายทั้ง 2 กรง นั่นหมายความว่า หนูทั้ง 2 กรงจะได้รับความถี่ของการถูกกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าในจำนวนครั้งที่เท่ากัน
ผลการทดลองปรากฏว่าหนูตัวที่ถูกขังในกรงที่ไม่มีปุ่มหยุดกระแสไฟฟ้านั้นได้รับผลจากความเครียดมากกว่า โดยสังเกตจากแผลที่เน่าเปื่อยเพราะความเครียดและอาการอ่อนแอที่มากกว่าหนูอีกกรง จากผลการทดลองนี้สามารถสรุปได้ว่าเพียงแค่เรารู้สึกว่าเราสามารถควบคุมความเครียดได้ ผลกระทบที่ได้รับจากมันก็จะลดลง
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราย้ายตัวเองที่ครุ่นคิดจมจ่อมอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้ ไปสู่สถานการณ์ที่เราพอจะจัดการมันได้และเห็นเป็นรูปธรรม ณ ช่วงเวลานั้น
ไม่ใช่แค่การจัดเก็บกวาดบ้านธรรมดาเฉกเช่นทุกครั้ง ทว่าสิ่งที่เราทำคือการควานลึกลงไปในรายละเอียดด้วยการจัดระเบียบสิ่งของ
อย่างน้อยมันจะต้องมีมุมใดมุมหนึ่งของบ้านคุณ ของห้องคุณ ที่มันรกและถูกผัดผ่อนการจัดเก็บมานานหลายต่อหลายครั้งแล้ว ก็อาศัยจังหวะนี้จัดการมันเสียเลย
เราจัดระเบียบลิ้นชักโต๊ะที่มักจะถูกของที่ยังไม่ได้ใช้ (แต่ต้องใช้สักวันล่ะแค่ไม่รู้เมื่อไร เราเลยยัด ๆ มันลงไปก่อน) อัดแน่นอยู่ข้างในอย่างไร้หมวดหมู่ ด้วยการรื้อมันออกมาทั้งหมด เลือกทิ้งสิ่งที่คงไม่มีโอกาสใช้งานหรือเก็บนานจนน่าจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว พร้อมกับรวบรวมสิ่งที่น่าจะอยู่ในประเภทเดียวกัน บรรจุลงกล่องหรือกระเป๋าเล็ก ๆ ที่พอเหมาะก่อนเก็บมันกลับลงลิ้นชักเดิม เพื่อให้มันกลายเป็นชิ้นใหญ่และง่ายต่อการทำความสะอาดลิ้นชักอีกภายหลัง
เราจัดโต๊ะเครื่องแป้ง หากล่องใส่ของกระจุกกระจิกที่มักวางกระจัดกระจายอยู่หน้ากระจก พร้อมกับทิ้งเครื่องสำอางที่ถึงวันหมดอายุแล้วแต่กลับยังนอนนิ่งอยู่ก้นกระเป๋า และจัดวางเรียงรายมันใหม่ ในพื้นที่ที่สะอาดและน่าหยิบใช้มากกว่าเดิม
เรารื้อกล่องเก็บยาสามัญประจำบ้านและชุดทำความสะอาดบาดแผลที่มีติดไว้ในห้องมารื้อดู พบว่ามียาหลายประเภทที่หมดอายุแล้วหรือดูลักษณะเสื่อมสภาพไม่น่าเก็บไว้ ก็จัดการทิ้งมันไป แล้วรวบรวมซองยาที่วางอยู่หน้าโทรทัศน์บ้าง โต๊ะเครื่องแป้งบ้าง (เพราะหยิบออกมากินและคิดว่าอาจจะได้กินอีกเลยวาง ๆ ไว้ก่อน) นำมันมาเก็บไว้ให้เป็นที่ทางโดยเรียบร้อย
เราเรียงชั้นหนังสือ รื้อกล่องเก็บอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ รื้อชั้นวางอาหารแห้งและเคลียพวกถุงบรรจุภัณฑ์หรืออะไรที่ไม่น่าจะได้ใช้ทิ้งไปให้หมด เคลียตู้เย็น (นี่เหมือนจะเป็นงานยักษ์มาก ๆ อย่างหนึ่ง) ใส่ใจไปกับรายละเอียดของมันแต่ละสัดส่วน นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่เราได้ใช้ไปกับการโฟกัสสิ่งต่าง ๆ ที่ควบคุมได้ ช่วยให้ผ่อนคลายและดึงความคิดออกมาแทนที่จะเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสภาวะนั้น และแน่นอน ผลลัพธ์ก็ปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อยืนยันว่า “ฉันสามารถควบคุมสถานการณ์นี้ได้”
แต่ถ้าหากคุณเป็นมนุษย์เจ้าระเบียบอยู่แล้ว ของในบ้านทุกอย่างของคุณมีการอัพเดทและจัดวางอย่างเป็นเรียบร้อยสม่ำเสมอ คุณจะหาสถานการณ์ใดให้มาควบคุมดี
เราขอแนะนำให้คุณลองหาภาพยนตร์เรื่องโปรดที่คุณชอบ ซีรีย์ตอนที่คุณรักในการดื่มด่ำ หรือหนังสือ-นวนิยายสักเล่มที่คุณหลงใหล แล้วใช้เวลากับมันพร้อมเครื่องดื่มหรือขนมที่คุณโปรดปรานดู กิจกรรมเหล่านี้สามารถตอบสนองและช่วยดึงคุณออกมาจากสภาวะความเครียดของคุณได้เป็นอย่างดี เราย้ำว่าให้เป็นผลงานที่คุณเคยผ่านตามาแล้ว เพราะมันเป็นสิ่งที่คุณรู้ตอนจบ รู้รายละเอียดปลีกย่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแม้จะเป็นภาพยนตร์ดราม่าแต่มันก็จะไม่ทรยศคุณด้วยตอนจบที่คาดไม่ถึงเพราะแท้จริงคุณรู้จักมันอย่างทะลุปรุโปร่งอยู่แล้ว
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณพาตัวเองเข้าสู่สถานการณ์ที่รู้สึกว่าตัวเองควบคุมได้ เป็นช่วงเวลาที่คุณเป็นเจ้าของและไม่มีอะไรที่มาเหนือความคาดหมายให้คุณต้องกังวลใจอีก
หวังว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะพอเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการหาวิธีรับมือกับความเครียดที่จู่โจมมาโดยไม่ทันตั้งตัวนะคะ : ) และขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์กดดันต่าง ๆ ผ่านพ้นมันไปได้ในเร็ววัน หากเผชิญกับเรื่องราวใดที่ดูจะรับมือได้ยาก ลองถอยออกมามองให้เห็นภาพกว้าง หรือพาตัวเองให้ไปอยู่ในสภาวะที่รู้สึกว่าสามารถควบคุมได้โดยไม่ต้องทำร้ายใจตัวเองหรือผู้อื่น เราเชื่อว่าคุณจะมีสติและจัดการได้อย่างแน่นอนค่ะ
