Skip to content
Home » Blog » รีวิวหนังสือ : The Book of Boundaries คู่มือการกำหนด “ขอบเขต” (Melissa Urban)

รีวิวหนังสือ : The Book of Boundaries คู่มือการกำหนด “ขอบเขต” (Melissa Urban)

รีวิวหนังสือ Book of Boundaries คู่มือการกำหนด "ขอบเขต"

ความชัดเจนคือความใจดี…

( – เบรเน บราวน์, หน้า 37 )

✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน

🎯 มุมมองสรุป

รีวิว Book of Boundaries คู่มือการกำหนด "ขอบเขต"

เมื่อมนุษย์เป็นสัตว์สังคม การปรับตัวเพื่อหาวิธีอยู่ร่วมกันจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้และเหมาะสม แต่ถ้าการปรับตัวมันหมายถึงการที่เราจะต้องเสียพื้นที่ความสบายใจของเราตลอดเวลาล่ะ? หรือกลายเป็นว่ามีแต่เราที่เสียเปรียบทางอารมณ์และความรู้สึกจากการถูกทำให้ความสำคัญของตัวเองเป็นเรื่องรองลงไปล่ะ? นี่ต้องไม่ใช่เรื่องดีในระยะยาวแน่ และถ้าหากอีกฝ่ายคือคนที่รักคุณและให้ความสำคัญกับคุณจริง แล้วเขามารู้ภายหลังว่าคุณต้องจำยอมขนาดไหนเพียงเพื่อให้ได้ใช้แต่ละวินาทีด้วยกันแบบนั้น มันคงกลายเป็นความสัมพันธ์ที่เจ็บปวดและกล้ำกลืนน่าดูเลย จริงไหมคะ?

หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้กลั่นกรองขึ้นมาจากประสบการณ์ของตน พร้อมกับการตอบคำถามและให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการสูญเสียพื้นที่ของตนให้กับบุคคลสำคัญหรือบุคคลรอบข้าง เพื่อปรับมุมมองของการทำให้ตัวเองโอเคมากขึ้นแทนที่จะฝืนให้คนอื่นสบายใจ สิ่งแรกที่คุณต้องทำความเข้าใจคือ การกำหนดขอบเขตนั้นเป็นเรื่องของการล้อมรั้ว ไม่ใช่การสร้างกำแพง

ก่อนการกำหนด “ขอบเขต”

การรู้จักตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมากในการกำหนดขอบเขตของตัวคุณเพื่อบอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณโอเคกับบางเรื่องในระดับไหน เพราะการกำหนดขอบเขตในที่นี้มันไม่ได้หมายถึงการชี้นิ้วหรือบอกเงื่อนไขใดๆ ก็ตามแต่ในชีวิตของเราให้กับผู้อื่น แต่มันคือการบอกสิ่งที่คุณจะทำ นอกจากนี้หากคุณเลือกกำหนดขอบเขตของตัวเองแล้วก็จงอย่าลืมว่าคุณเองก็ต้องเคารพขอบเขตของผู้อื่นด้วย ลองนึกภาพผู้คนที่มีความสัมพันธ์ต่อกันและรับรู้ขอบเขตของแต่ละฝ่ายว่าใครสบายใจตรงจุดไหน เราอาจเรียกว่ามันคือการ ‘เคารพ’ ซึ่งกันและกันได้อย่างแท้จริง

Book of Boundaries คู่มือการกำหนด "ขอบเขต" รีวิว

ทำอย่างไรเมื่ออึดอัดใจ แต่ก็ยังไม่อยากลาออกจากงาน

มีหลากหลายเหตุผลที่คนวัยทำงานยอมทนอยู่ในองค์กรที่มีสภาพแวดล้อมไม่ดีนัก ไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นใดๆ ก็ตามแต่ บางครั้งสิ่งที่น่าอึดอัดใจที่สุดในการทำงานกลับไม่ใช่เนื้องานเลยแม้แต่น้อย มันคือคนต่างหาก ผู้เขียนได้รวบรวมคำแนะนำและแนวทางคำพูดอย่างสุภาพที่สามารถใช้กำหนดขอบเขตกับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานได้ โดยอ้างอิงจากคำถามของผู้ติดตามเธอ เช่น ฉันจะตอบโต้แบบสุภาพอย่างไรกับเพื่อนร่วมงานที่ชอบให้ฉันปกปิดความผิดพลาดไม่ให้หัวหน้ารู้ ฉันจะตอบสนองต่อมุกตลกทางเพศที่ไม่ชอบอย่างไรดี หรือกระทั่งเรื่องการช่วงชิงเวลาส่วนตัวของคุณด้วยการติดต่อเรื่องงานหลังเวลาหรือระหว่างการลาพักร้อน ซึ่งแน่นอนว่าการลงมือทำจริงย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากนี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่พอจะหยิบมาใช้ช่วยเหลือคุณได้ การทดลองทำก่อนจะตัดสินใจยกธงขาวก็อาจเป็นทางเลือกที่ดี

นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำที่กล่าวถึงประเด็นวัฒนธรรมองค์กรเรื่องหนึ่งซึ่งน่าสนใจมาก โดยวารสาร Harvard Business Review ได้ระบุถึงบริษัทที่มีลักษณะวัฒนธรรมองค์กรแบบครอบครัว (เห็นพนักงานเป็นครอบครัว / เราอยู่กันแบบครอบครัว) ว่ามันคือธงแดงเตือนภัย เพราะธุรกิจที่เปรียบเทียบกับครอบครัวมีแนวโน้มจะทำให้เกิดความไม่สมดุลทางอำนาจ มีโอกาสที่จะให้ความสำคัญกับความจงรักภักดี เชื่อฟัง เฉกเช่นบุพการีแทนที่จะมีการทำงานในรูปแบบทีมเวิร์กอย่างเจ้านายและลูกน้อง

วิธีพูดให้อีกฝ่ายทำตามความต้องการ แบบไม่ต้องชวนทะเลาะ

การกำหนดขอบเขตกับคู่รักเป็นเรื่องที่ทำให้ใครหลายคนรู้สึกผิดและสามารถนำไปสู่การเลิกราได้ แต่หากคุณทั้งคู่รู้วิธีการสื่อสารที่ดี ไม่ว่าจะมีกี่อุปสรรคย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ การสื่อสารที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์เป็นไปอย่างราบรื่นคือการพูดคุยที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะการส่งสัญญาณอันตรายจะทำให้อีกฝ่ายอยากปกป้องตัวเองตามสัญชาตญาณมนุษย์ หนังสือสอดแทรกการนำเสนอรูปแบบการสื่อสารประเภทหนึ่งที่เรียกว่าการสื่อสารแบบ NVC (Nonviolent Communication) ซึ่งเป็นรูปแบบการสนทนาที่แสดงออกทางความรู้สึก ใส่ใจฟัง และช่วยก่อให้เกิดความเข้าอกเข้าใจกันได้ ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่

  • สังเกตสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อใดก็ตามที่เกิดปัญหาให้พูดสิ่งที่คุณสังเกตเห็นโดยยังไม่ต้องตัดสิน เช่น แทนที่จะพูดว่าอีกฝ่ายชอบออกไปเที่ยวทุกวัน เปลี่ยนเป็นว่าคุณสังเกตเห็นอีกฝ่ายกลับบ้านช้ากว่าเวลาเดิม
  • ตรวจสอบความรู้สึก ในขั้นตอนนี้คุณต้องเข้าใจว่าตนเองรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น และรับผิดชอบมัน ไม่ใช่ผลักมันให้อีกฝ่ายแก้ปัญหา
  • เข้าใจความต้องการของตนเอง ให้เชื่อมโยงสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ เข้ากับความรู้สึกของตัวเอง เช่น บอกอีกฝ่ายว่าคุณรู้สึกเสียใจที่สุดท้ายคุณต้องกินมื้อค่ำคนเดียวในวันนี้ ไม่ใช่การตีโพยตีพายว่ากล่าวอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
  • ใช้การขอร้องแทนการออกคำสั่ง เช่น แทนที่จะพูดเชิงบังคับว่าให้ต้องกลับทันที เป็นคำขอให้ช่วยกลับบ้านหลังเลิกงานเพื่อมาทานมื้อค่ำด้วยกันในบางวัน และอาจใช้วิธีพูดคุยตกลงระหว่างกันโดยรับฟังสถานการณ์ของอีกฝ่ายด้วย
รีวิวหนังสือ Book of Boundaries คู่มือการกำหนด "ขอบเขต"

การแต่งงาน คือการแต่งกับครอบครัวของพวกเขาด้วย

อาจเรียกได้ว่าปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับชีวิตการแต่งงานในหลายๆ คู่ ด้วยสายสัมพันธ์และความหวังดีที่บางครั้งออกจะมากเกินไปของปู่ย่าตายายหรือญาติพี่น้อง สามารถทำให้ใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกอึดอัดใจกับคำแนะนำที่ก้าวก่ายรวมถึงรูปแบบการอบรมสั่งสอนที่ต่างไปจากวิธีของคนเป็นพ่อเป็นแม่ เคล็ดลับข้อหนึ่งที่ผู้เขียนนำเสนอเพื่อหาวิธีรับมืออย่างสันตินั่นคือ การแสดงให้พ่อแม่ของคู่สมรสของพวกคุณเห็นว่าคุณสองคนคือทีมเดียวกัน (แต่พ่อแม่ใครคนนั้นก็รับผิดชอบดูแลไป) อย่าลืมตกลงเกี่ยวกับข้อจำกัดหรือขอบเขตที่จะบอกพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายด้วยกันอย่างชัดเจน และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องอธิบายให้พวกเขาเข้าใจ จงเลือกใช้คำว่า ‘เรา’ แม้จะเป็นความคิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ตาม (เว้นแต่ว่าในสถานการณ์ที่เมื่อกล่าวถึงใครคนใดคนหนึ่งแล้วมีโอกาสสำเร็จมากกว่า เช่น พวกเขาเชื่อคุณในฐานะหมอ หรือความเชื่อแบบปิตาธิปไตย)

ปล่อยให้เป็นธุระของคนอื่น

เราชอบการนำเสนอของเนื้อหาหนังสือที่มีตัวอย่างคำพูดให้หยิบไปปรับใช้ได้ทันที รวมทั้งมีการแบ่งระดับความรุนแรงที่ช่วยให้เป็นไปในลักษณะประนีประนอมและสุภาพ สำหรับเราแล้ว นอกจากจะได้เรียนรู้วิธีการกำหนดขอบเขตต่างๆ จากคำถามภายในเล่ม เรายังได้สะท้อนตัวเองด้วยว่าพฤติกรรมบางอย่างของเรากำลังล้ำเส้นคนอื่นอยู่หรือไม่ (ต้องบอกว่าบางคำถามก็ทำเอาเรารู้สึกว่าบางครั้งฉันน่าจะเผลอไปล้ำเส้นคนอื่นอยู่เหมือนกันนะ)

โดยภาพรวมการกำหนดขอบเขตคือทางออกที่จะช่วยให้เราผ่อนปรนกับเรื่องราวหรือผู้คนรอบข้างด้วยการสร้างรูปแบบวิธีรับมือที่เราสบายใจขึ้นมา เป็นการล้อมรั้วทางความรู้สึกเพื่อไม่ให้เกิดการบาดหมางจากการกระทบกระทั่งโดยไม่ตั้งใจในแต่ละความสัมพันธ์ในชีวิต การกระทำเช่นนี้ยังชวนให้เรานึกถึงหลักจิตวิทยาแอดเลอร์ที่เน้นการเริ่มต้นจัดการที่ตัวเองเป็นหลัก (สนใจอ่านหลักจิตวิทยานี้เพิ่มเติมได้จากหนังสือ: กล้าที่จะถูกเกลียด) แล้วปล่อยให้วิธีตอบสนองของผู้อื่นที่มีต่อขอบเขตของคุณเป็นหน้าที่ของพวกเขา

เพราะเรารับผิดชอบคนทั้งโลกไม่ได้ และไม่ว่าใครก็รับผิดชอบเราไม่ได้เช่นกัน

รีวิว Book of Boundaries คู่มือการกำหนด "ขอบเขต"

🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์

“คู่มือการกำหนด “ขอบเขต” (The Book of Boundaries)”

ผู้เขียน : Melissa Urban
(เขมลักขณ์ ดีประวัติ แปล)

จำนวนหน้า : 442 หน้า / ราคาปก : 395 บาท

สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ฮาวทู

หมวด : จิตวิทยา/พัฒนาตนเอง

รีวิวหนังสือ ซ่อมแซมสุขที่สึกหรอ
บาดแผลที่มองไม่เห็นนับเป็นสิ่งที่เยียวยาได้ยากยิ่งกว่ารอยแผลที่เราเห็นตามร่างกาย มาร่วมค้นพบชุดปฐมพยาบาลจิตใจและเรียนรู้วิธีปกป้องตนเองให้ได้ก่อนที่รอยช้ำทางอารมณ์จะทำร้ายตัวตนเราจนพังทลายอย่างยากที่จะฟื้นคืน
มิ.ย. 4, 2023
รีวิว เทคนิค สร้างนิสัย ต่อเนื่อง อ่านง่าย เข้าใจง่าย
หนังสือที่จะทำให้คุณหยิบจับเทคนิคที่ผู้เขียนเผยแพร่จากประสบการณ์ของตนเองมาใช้ได้อย่างไว ๆ และเพลิดเพลิน
มิ.ย. 10, 2022
รีวิวหนังสือ The power of output ศิลปะของการปล่อยของ
มาทำความรู้จักกระบวนการและกลวิธีที่ช่วยให้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ากับเวลาที่ได้ศึกษา และต่อยอดไปสู่การพัฒนาตนเองในขั้นสูง โดยจิตแพทย์ญี่ปุ่นผู้ทำ Output ตัวยง
ต.ค. 9, 2021
Conversations on Love ด้วยรักและการพูดคุยถึงสิ่งเหล่านั้น รีวิว
หนังสือที่หยิบยกประสบการณ์จากผู้คนอันหลากหลาย ถ่ายทอดผ่านบทสัมภาษณ์ชวนครุ่นคิด และอาจทำให้คุณได้แง่มุมทางความคิดในเรื่องความสัมพันธ์ ความรัก หรือแม้กระทั่งการจากลาได้เป็นอย่างดี
มี.ค. 16, 2024