การบรรลุเป้าหมายก็คือการทำสิ่งที่ต้องการเสร็จลุล่วง
ส่วนความรู้สึกว่าประสบความสำเร็จนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเข้าใจว่า ‘ทำไม’ คุณถึงต้องการสิ่งนั้น
– Simon Sinek
✒️ ประวัติผู้เขียน ไซมอน ซิเนก (Simon Sinek)
Simon Sinek จบการศึกษาด้านมานุษยวิทยาวัฒนธรรม เคยทำงานที่บริษัทโฆษณา Euro/RSCG และ Ogilvy&Mather ภายหลังลาออกมาก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง ปัจจุบันนอกจากเป็นผู้ประกอบการแล้ว เขายังเป็นนักพูดและที่ปรึกษาด้านการเป็นผู้นำและสร้างแรงบันดาลใจ โดยร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลก กองทัพ และหน่วยงานของรัฐมากมาย และการขึ้นพูดบนเวที TED Talk ของเขา ยังกลายเป็นหนึ่งในคลิปยอดนิยมของ TED อีกด้วย
🎯 มุมมองสรุป
: หนังสือนำเสนอวิธีคิดและวิธีปฏิบัติที่จะช่วยให้ผู้นำหรือผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเข้าใกล้ความสำเร็จได้มากขึ้นด้วยแนวคิดวงแหวนทองคำ ซึ่งยึดหลักการลงมือสร้างจากจุดมุ่งหมายและสื่อสารเหตุผลของการสร้างเหล่านั้นผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ หรือรูปแบบการทำธุรกิจ หรืออาจกล่าวง่ายๆ ว่า ผู้เขียนเปลี่ยนมุมมองคนทำธุรกิจที่เริ่มต้นจากคำถามว่า "เราจะขายอะไร?" ไปเป็น "เราจะทำไปทำไม?" : ‘ผู้คนไม่ได้ซื้อสิ่งที่คุณทำ แต่ซื้อเพราะเหตุผลที่คุณทำมันต่างหาก’ – หนังสือเล่าเรื่องโดยอ้างอิงกับองค์กรและบุคคลผู้ประสบความสำเร็จโดยเมื่อทดลองถอดแบบโมเดลการดำเนินงานแล้ว พวกเขาต่างมีจุดร่วมเหมือนกันอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือการเริ่มต้นทำจากเหตุผลที่ตัวเองเชื่อแล้วสื่อสารมันไปถึงคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Apple Inc. ที่สะท้อนภาพลักษณ์อันโดดเด่นของความเชื่อในการท้าทายโลกใบเดิม หรือ Harley-Davidson ที่ทรงพลังมากเสียจนมีคนนำโลโก้ไปสักเป็นสัญลักษณ์บนเรือนร่าง : นอกจากนี้ ภายในเล่มยังนำเสนอวิธีทำการตลาดโดยสร้างแรงจูงใจให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางความคิด (Influencer) ด้วยหลักการแพร่กระจายนวัตกรรมเพื่อเปิดโอกาสให้แนวคิดถูกกระจายและบอกต่อกันเป็นวงกว้าง : เนื้อหาแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 โลกที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการถามว่า "ทำไม" ส่วนที่ 2 ทางเลือกอื่น ส่วนที่ 3 ผู้นำต้องมีผู้ตาม ส่วนที่ 4 หาแนวร่วม ส่วนที่ 5 ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความสำเร็จ ส่วนที่ 6 โลกที่เริ่มต้นจากการถามว่า "ทำไม" : หนังสือเล่มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ ผู้นำองค์กร หรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจจากการสร้างบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาด้วยตัวเอง เราเชื่อว่ากระบวนการคิดและวิธีเล่าของผู้เขียนจะส่งพลังที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพตัวเองได้ชัดเจนมากกว่าเก่า หรือถ้าไม่...คุณจะรู้สึกอยากลองค้นหามัน : และแน่นอนว่ารูปแบบการทำธุรกิจนั้นคงไม่มีสูตรสำเร็จเพียงสูตรเดียวที่จะใช้ได้กับทุกองค์กร แต่ด้วยวิธีตั้งคำถามถึงเหตุผลในสิ่งที่คุณทำและใช้มันเป็นจุดมุ่งหมาย เมื่อนั้นต่อให้ผลิตภัณฑ์ที่คุณขายมีลักษณะเหมือนกับสินค้าอื่นๆ ในท้องตลาดมากแค่ไหน มันก็จะมีความแตกต่างซ่อนอยู่ภายใต้แบรนด์ที่คุณสร้างขึ้นจากความเชื่อเฉพาะที่คุณมอบและสื่อสารมันออกมา
เริ่มต้นด้วย “ทำไม” และทำความเข้าใจแนวคิดวงแหวนทองคำ
ผลิตภัณฑ์และบริการบนโลกใบนี้อาจมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แม้ว่าด้วยยุคสมัยจะทำให้เราสามารถสร้างนวัตกรรมและนำเสนอสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้นเพียงใด แต่ก็คงเป็นเรื่องยากที่เราจะเลือกทำธุรกิจสักประเภทที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และถึงแม้ว่าเราจะเลือกทำมันเป็นคนแรก แต่เมื่อผ่านไปสักระยะ มันก็มักจะมีคนที่ทำออกมาใกล้เคียงหรืออาจจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ คำถามคือแล้วเราจะเดินหน้าแข่งขันต่อไปด้วยวิธีไหนที่จะครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้หรือกระทั่งเอาชนะใจลูกค้าเพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ไว้ให้นานที่สุด
โชคดีที่คำตอบนั้นมีอยู่ภายในเล่มนี้แล้ว…
แนวคิดวงแหวนทองคำ (The Golden Circle) ของผู้เขียน Simon Sinek ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) ซึ่งเป็นค่าทางคณิตศาสตร์ที่ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับการคำนวณและออกแบบสิ่งต่างๆ มากมาย แนวคิดวงแหวนทองคำนี้ประกอบไปด้วยวงกลม 3 ชั้นซ้อนกัน
- ชั้นนอกสุด เป็นชั้นที่ผู้เขียนเรียกว่า ‘อะไร’ ใช้แทนสิ่งที่องค์กรทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ
- ชั้นที่ 2 เป็นชั้นที่เรียกว่า ‘อย่างไร’ ใช้แทนกระบวนการหรือวิธีที่องค์กรจะใช้ในการนำเสนอสินค้าหรือบริการแต่ละประเภท
- ชั้นที่ 3 วงกลมชั้นในสุด เป็นชั้นที่เรียกว่า ‘ทำไม’ และเป็นวงกลมที่ผู้เขียนมุ่งมั่นให้องค์กรหรือผู้นำเริ่มต้นจากจุดนี้
ภายในหนังสือจึงเป็นการอธิบายข้อมูลสนับสนุนที่สะท้อนความเชื่อของผู้เขียนในการดำเนินธุรกิจหรือองค์กรว่าเหตุใดจึงควรเริ่มจากค้นหาเหตุผลในการลงมือทำอะไรสักอย่างให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อให้หลุดพ้นจากวงจรสนามการแข่งขันวกวนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามราคาที่ธุรกิจจำนวนมากนิยมใช้เป็นสิ่งล่อใจในการดึงดูดลูกค้าและมุ่งหวังขยายขอบเขตส่วนแบ่งทางการตลาดของตนเองให้กว้างขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณเลือกเริ่มต้นด้วยเหตุผลเป็นกลยุทธ์การทำธุรกิจ
ไม่ใช่ว่าสินค้าและบริการหรือกระบวนวิธีการนั้นไม่มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ หากแต่การเริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายและยึดมันเป็นแนวทางหลัก จะทำให้ธุรกิจของคุณมุ่งไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความเชื่อได้อย่างไม่ไขว้เขว ผู้คนจะไม่สับสนไปกับการเลือกผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันที่มีอยู่อย่างดาษดื่นในตลาดเมื่อแบรนด์ของคุณตอบโจทย์ชัดเจนบางอย่างและสื่อสารมันออกมาผ่านตัวสินค้าและบริการได้ เปรียบเสมือนการหยิบยกตัวอย่างที่ผู้เขียนนำมาใช้อ้างอิงตลอดทั้งเล่มจาก Apple Inc. หรือ Harley-Davidson กลุ่มเป้าหมายที่มีความภักดีของแบรนด์เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเมินเฉยต่อสิ่งล่อใจอย่างราคาหรือรูปลักษณ์ที่มีผู้แข่งขันอีกจำนวนมากนำเสนอ พวกเขายังยินยอมที่จะรอคอย เพราะการเลือกใช้แบรนด์ดังกล่าวเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์และความเชื่อบางอย่างที่บ่งบอกถึงตัวตนของพวกเขาเอง
และนั่นเป็นพลังที่ได้จากการสื่อสารอันชัดเจนด้วยเหตุผลที่พวกเขาลงมือทำและส่งผ่านมายังผลิตภัณฑ์
ด้วยกระบวนการนี้ นอกจากจะขึ้นอยู่กับเหตุผลของผู้นำแล้ว การส่งต่อไปยังกลุ่มคนที่รู้วิธีทำความเชื่อให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการสร้างธุรกิจขึ้นมาสักอย่างหนึ่งและปรารถนาให้มันประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน องค์กรควรจะเป็นสถานที่ที่รวบรวมคนที่เชื่อในแบบเดียวกันเอาไว้ให้มาก มากพอที่จะเป็นตัวแทนความเชื่อของคุณและมุ่งสู่การค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มองเห็นคุณค่านั้นๆ ซึ่งจะทำให้องค์กรเจอเข้ากับกลุ่มคนที่แม้จะไม่ใช่คนส่วนใหญ่ แต่พวกเขาจะเลือกแบรนด์ของคุณเป็นลำดับแรกเสมอ
สิ่งที่ชอบจากกรอบคิดของผู้เขียน
แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายดายแต่หนทางนี้นับเป็นตัวเลือกที่นำไปสู่ทางเดินของการประสบความสำเร็จที่คุณจะไม่นึกสงสัยตัวเองในภายหลังยามที่ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวยแต่คลับคล้ายว่ามันขาดอะไรบางอย่าง เราชอบความคิดสนับสนุนที่ผู้เขียนนำเสนอว่าทำไม…การเริ่มต้นด้วย ‘ทำไม’… จึงสามารถสร้างผลกระทบได้ดีกว่าการจูงใจด้วยรูปลักษณ์หรือคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เขาใช้วิธีเปรียบเทียบแนวคิดวงแหวนทองคำเข้ากับการทำงานของสมองส่วนลิมบิกและนีโอคอร์เทกซ์ ซึ่งวิธีการสื่อสารโดยเริ่มจาก ‘ทำไม’ เป็นวิธีสื่อสารเข้ากับสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจโดยตรง (ลิมบิก) จากนั้นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์และภาษา (นีโอคอร์เทกซ์) จึงค่อยประมวลหาเหตุผลที่ดีพอมารองรับการตัดสินใจของเราหลังจากนั้น นี่จึงเป็นการไขข้อสงสัยที่บางครั้งเราไม่สามารถอธิบายเหตุผลของการตัดสินใจของตัวเราเองได้นอกจากรู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันได้นำความเชื่อที่อยู่ข้างในตัวเราแสดงออกมาเป็นรูปธรรมอันจับต้องได้ผ่านสินค้าหรือบริการที่เราเลือก
ไม่เพียงแต่ในเรื่องธุรกิจ การกระทำของเราในทุกวันนี้และเส้นทางชีวิตที่เรากำลังเดินอยู่ ก็อาจแสดงถึงจุดยืนหรือความเชื่อบางอย่างได้ด้วย ฉะนั้นในทำนองเดียวกัน หากเรายังรู้สึกคับข้องใจหรือรู้สึกติดขัดกับอะไรบางอย่างที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
เราอาจลองมาตรวจสอบวิถีการดำเนินชีวิตดูใหม่ เราตอบตัวเองได้ชัดเจนหรือไม่ว่าทำไมถึงเลือกหรือทำสิ่งที่อยู่ในมือตอนนี้
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
ทำไมต้องเริ่มด้วย “ทำไม” (Start With Why)
ผู้เขียน : Simon Sinek
(วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา แปล)
จำนวนหน้า : 264 หน้า / ราคาปก : 275 บาท
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น (WeLearn)
หมวด : ธุรกิจ