อาจมีบางช่วงชีวิตของเราที่ให้ความสำคัญและมอบคุณค่าให้แก่ความ PRODUCTIVE
กระทั่งนานวันไป – มันได้หยั่งรากลึกลงไปจนติดเป็นนิสัย
บ่อยครั้งเราไม่อนุญาตให้ตัวเองได้พัก และปิดทับโพรงแห่งความเหนื่อยล้าด้วยความเข้าใจผิดที่ว่า
‘ไม่ทำอะไร = คนขี้เกียจ’
✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน ✒️ แอนเนท ลาฟไรห์เซน อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Women’s Health ประเทศเนเธอแลนด์และนักข่าวอิสระ เชี่ยวชาญงานเขียนเกี่ยวกับสุขภาพ จิตวิทยา และธรรมชาติ ผู้ที่ใช้ชีวิตประจำวันไปกับการแสวงหาความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับสิ่งใหม่ ๆ พลังงานชีวิต ท่ามกลางบรรยากาศที่ลดทอนความกังวล และตัดตนออกจากการใช้งานโทรศัพท์หรือ WIFI บ่อยครั้ง ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ทั้งเมืองอัมสเตอร์ดัมและบาร์เซโลนา
🎯 SUMMARY VIEW 🎯 : หนังสือชวนทำความรู้จักปรัชญา NIKSEN ซึ่งคำนี้เป็นภาษาดัตช์ มีนิยามความหมายสั้น ๆ ว่า “ไม่ทำอะไรเลย” เคยถูกใช้ในความหมายเชิงลบมาโดยตลอด กระทั่งปัจจุบันเกิดกระแสโลกาภิวัฒน์ที่รวดเร็วและถาโถม คำนี้ได้ถูกตีความใหม่ให้เป็นแนวปฏิบัติในทางบวกมากขึ้น : ดัชนีชี้วัดความเป็นอยู่ที่ดี (Better Life Index) จัดให้เนเธอแลนด์เป็นประเทศที่สมดุลด้านการทำงานและการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดในองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมปรัชญา NIKSEN จึงน่านำมาเรียนรู้ : หนังสือเล่มเล็ก ขนาดกะทัดรัด และมีเนื้อหาที่อ่านจบได้ในเวลาอันสั้น มีภาพประกอบและสีสันสวยงามตลอดทั้งเล่ม สร้างความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้หยิบมาอ่าน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคุณลักษณะของสิ่งที่เนื้อหานำเสนอ : เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเรียนรู้วิธีการหยุดพักจากสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่รายล้อมรอบด้าน หรือผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองสะสมความเครียดจากการทำงาน ไม่สามารถทนการอยู่เฉย ๆ ได้ และอยากได้แนวความคิดที่จะช่วยละตัวตนให้ออกจากสภาวะดังกล่าวบ้าง : ตลอดทั้งเล่มมีแบบฝึกหัดให้ทดลองทำได้เลยโดยไม่ต้องอาศัยการตีความมาก เป็นหนังสือที่ชี้แนะแนวทางให้ทำตามอย่างที่คุณไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
NIKSEN มีความหมายว่า “ไม่ทำอะไรเลย” ในภาษาดัตช์ ซึ่งเป็นภาษาทางการของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยพื้นฐานที่ชาวดัตช์มีการเรียนรู้วิธีการทำงานอย่างขยันขันแข็งตั้งแต่เด็ก ทำให้คำนี้มีความหมายในทางลบมาโดยตลอด จนกระทั่งยุคสมัยปัจจุบันที่ความรวดเร็วกลายเป็นกระแสหลักในการดำเนินชีวิต การหยุดพักหรือไม่ทำอะไรเลย จึงถูกนำมาตีความใหม่อีกครั้ง เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติเชิงบวกที่จะช่วยลดความเครียดของชาวดัตช์ลง
‘ แค่การไม่ทำอะไรเลย … ฉันก็เคยนะ …’
หากคุณกำลังสงสัยว่าการไม่ทำอะไรเลยของคุณนั้นถือว่าเป็นการเรียนรู้ปรัชญา NIKSEN ตามแบบฉบับของชาวดัตช์แล้วหรือไม่ ลองตอบคำถามสิ่งที่คุณทำลงไป (เอ้ย! ไม่ได้ทำลงไป) ดังต่อไปนี้ว่ามีอยู่กี่ข้อ
หากตอบใช่ทุกข้อ …คุณน่าจะเข้าถึงปรัชญา NIKSEN ได้บางส่วนแล้วล่ะ ไม่ต้องอ่านก็ได้ 😀 (หยอก ๆ ค่ะ) แต่ถ้าหากยังอยากรู้ว่าในเล่มนี้มีอะไร ก็หยิบมันกลับมาไว้ในอ้อมออกอ้อมใจต่ออีกสักนิด
ภายในหนังสือจะชวนเราปรับทัศนคติของการปล่อยให้ตัวเองไม่ต้องทำอะไรเลยเสียใหม่ ว่าบางครั้งสิ่งที่เราคิดว่ายุ่งเกินไป ไร้สาระเกินไป หรือคนอื่นกำลังต้องการเรามาก ๆ อยู่นั้น อาจเป็นข้อผูกมัดที่ทำให้เราไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมาเอื้ออารีต่อตัวเองด้วยการปล่อยให้มีพื้นที่สำหรับการได้หยุดพักทั้งความคิด ความรู้สึก และกิจกรรมในมือบ้าง
ลองนึกภาพว่าหากเราเห็นคนที่เรารักสักคนทำงานอย่างหนัก (หนักแบบที่เรากำลังทำ) หรือครุ่นคิดใช้สมองโดยไม่หยุดพัก (แบบที่เรากำลังเป็น) เราก็อาจจะรู้สึกว่าอยากให้เขาได้ ‘พักผ่อน’ สักหน่อย
แล้วทำไมกับตัวเอง เราถึงได้ใจร้ายกันบ่อยนัก ว่าอย่างนั้นไหมคะ ?
สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณจัดสรรตารางกิจวัตรประจำวันใหม่ โดยเพิ่มการทำ NIKSEN เข้าไปในช่วงเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอจะแอบซ่อนไว้ได้ นั่นคือการไล่เรียงลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิต ทบทวนถึงสิ่งเหล่านั้นอย่างถี่ถ้วนดูอีกครั้ง (แรก ๆ อาจต้องใช้การแอบซ่อน แต่เราหวังว่าเมื่อคุณได้ลองทำและเข้าถึงมัน คุณจะแบ่งเวลาให้กับการทำ NIKSEN แบบเต็ม ๆ วันดู)
อันดับแรก จงทดลองให้คะแนนสิ่งที่คุณทำในแต่ละวันโดยใช้ความสุขเป็นเกณฑ์ชี้วัด อะไรที่คะแนนน้อยเกินไปนัก คุณอาจลองล้มเลิกหรือคิดค้นที่จะหยุดกิจกรรมดังกล่าว แล้วใส่ NIKSEN ลงไป หรือจัดกลุ่มมันให้อยู่ด้วยกันไว้ เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาสำหรับความผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องได้นานขึ้น
ไม่ใช่แค่เรื่องของตารางเวลา ในแง่ของสถานที่ การสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมก็ช่วยให้การทำ NIKSEN สามารถประสบผลสัมฤทธิ์ได้ง่ายดายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่บ้านที่คุณอาจจะจัดมุมสงบ ๆ สักหนึ่งมุมสำหรับช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลาย หรือพื้นที่ทำงานที่คุณอาจใช้เส้นแบ่งที่ชัดเจนของช่วงเวลาเพื่อช่วยแยกคุณออกจากโซนการทำงานได้ชั่วคราวในแต่ละวัน
หนังสือได้พยายามทำลายข้ออ้างทั้งหมดเท่าที่มนุษย์ Multitasking หรือ Productive คนหนึ่งจะหยิบยกมาใช้เพื่อไม่ปล่อยให้ตัวเองได้หยุดพัก เพราะในความเป็นจริงปรัชญา NIKSEN นั้นสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และในทุก ๆ วัน
ไม่เพียงแค่สำหรับตัวเองเท่านั้น หนังสือได้ชวนนำปรัชญานี้ไปใช้ในฐานะของคนเป็นพ่อเป็นแม่อีกด้วย
เราจะเห็นได้ว่าหนังสือเน้นไปที่การใช้เวลากับตัวเองและครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ เพราะนี่เป็นสิ่งที่ชาวดัตช์ให้ความสำคัญ โดยอ้างอิงจากการศึกษาของวีทีกี โกเนน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม ซึ่งใช้ข้อมูลจาก European Value Study (1981 – 2017) ถึงสิ่งที่ชาวยุโรปให้ความสำคัญที่สุด เขาพบว่าทุกประเทศล้วนให้ความสำคัญกับครอบครัว แต่เมื่อมาถึงเรื่องงานที่หลายประเทศจัดลำดับไว้รองลงมานั้น ประเทศเนเธอร์แลนด์กลับใส่มันไว้ท้ายตารางต่อจากเพื่อนและเวลาว่าง
ท้ายสุดแล้ว ปรัชญาของการไม่ทำอะไรเลยนี้ อาจดูเป็นศิลปะที่ทำได้ไม่ยาก แต่หากคุณเป็นมนุษย์ที่มักทำงานอยู่เสมอ หรือคอยถมช่องว่างที่ยังเห็นเล็ดรอดในตารางเวลาให้เต็มไปด้วยกิจกรรมทรงคุณค่าจนแน่นขนัด จะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการทำ NIKSEN
ขออนุญาตบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวก่อนที่จะรู้จักกับปรัชญานี้ เราเคยเข้าร่วมกิจกรรม New Me in One Month ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยความสุขประเทศไทยร่วมกับ สสส. ดำเนินรายการโดยนักเขียนคนโปรดของเราคือ คุณเอ๋ นิ้วกลม สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ ร่วมกับวิทยากรที่น่าประทับใจอีกหลายท่าน โดยเป็นกิจกรรมที่ให้เราเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 30 วันพร้อมทั้งบันทึก Journal ไว้
เราเลือกกิจกรรม “ไม่ทำอะไรเลยเป็นเวลา 15 นาทีต่อวัน” (ซึ่งโดยบังเอิญมากที่เราก็มาเจอหนังสือเล่มนี้ต่อจากกิจกรรมนั้น) เพราะคิดว่าดูไม่น่าจะลำบากอะไรมาก แต่ปรากฏว่าวันแรกสิ่งที่พบ คือความรู้สึกกระวนกระวายและเอาแต่คิดว่าน่าจะเลือกกิจกรรมที่ดูมีประโยชน์กับชีวิตมากกว่านี้ (ฮ่า ๆ)
จวบจนกระทั่งเวลาผ่านไป เราจึงค้นพบว่านี่กลายเป็นช่วง 15 นาทีทองของวันไปโดยปริยาย : )
ฉะนั้นเราไม่อาจบอกได้ว่าคุณจะค้นพบคุณค่าของศิลปะแห่งการไม่ทำอะไรเลยหลังจากอ่านเล่มนี้จบหรือไม่ และไม่แน่ใจกระทั่งว่าเมื่อได้ทดลองทำแล้วจะเข้าถึงจิตวิญญาณของสิ่งนี้เลยหรือเปล่า
แต่สิ่งที่เรารู้ …เพียงแค่คุณสนใจที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ นี่ก็อาจหมายถึงว่าคุณเริ่มอยากกลับมาใส่ใจที่จะปลอบประโลมตัวเองบ้าง
และมันเพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มต้น …
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
“NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย”
ผู้เขียน : แอนเนท ลาฟไรห์เซน
(อณรรฆวีร์ เติมสินสุข แปล)
จำนวนหน้า : 146 หน้า / ราคาปก : 245 บาท
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ฮาวทู
หมวด : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง