Skip to content
Home » Blog » รีวิวหนังสือ : GRIT สิ่งที่ต้องมี…เมื่อคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิต (Angela Duckworth)

รีวิวหนังสือ : GRIT สิ่งที่ต้องมี…เมื่อคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิต (Angela Duckworth)

รีวิว GRIT The power of passion and perseverance

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ปรารถนาความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะด้านหน้าที่การงาน

แต่สิ่งหนึ่งที่เรามักได้ยินคำกล่าวอ้างถึงผู้ขึ้นสู่จุดสูงสุดบ้างว่าเขาเป็นผู้มี “พรสวรรค์”

แล้วคนที่ไม่อาจใช้คำนั้นได้ – ควรทำอย่างไร? … ทำไปเท่าที่ทำได้ หรือ ยอมรับและพึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่แล้วเท่านั้น?

หนังสือเล่มนี้จะชวนคุณเดินทางสู่ประสบการณ์ความสำเร็จผ่านการพัฒนาศักยภาพเต็มรูปแบบด้วยสิ่งที่ฝึกฝนได้

นั่นคือ ‘ความทรหด’ ของตัวเราเอง

✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน

Angela Duckworth
จบการศึกษาปริญญาตรีสาขาประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ปริญญาโทสาขาประสาทวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
และปริญญาเอกสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
เธอเคยเป็นที่ปรึกษาให้บุคลากรจากทำเนียบขาว ธนาคารโลก
ทีมบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ทีมอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล
รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลก 500 อันดับแรกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูน
ปัจจุบันเป็นอาจารย์จิตวิทยา ณ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
และยังเป็นผู้ก่อตั้ง Character Lab ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
โดยมีภารกิจด้านการพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้เด็ก ๆ เจริญเติบโตอีกด้วย

🎯 มุมมองสรุป

: หนังสือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ส่วนแรกคือการทำความรู้จักกับความทรหดรวมถึงความสำคัญของมัน ส่วนที่สองเป็นการสร้างความทรหดจากภายในสู่ภายนอก (พัฒนาตัวเอง) และส่วนสุดท้ายคือการสร้างความทรหดจากภายนอกสู่ภายใน (สภาพแวดล้อม)

: ความทรหด เป็นลักษณะที่ความอุตสาหะในตัวตนทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมแพ้ ซึ่งต่างจากพรสวรรค์ที่คนมักนำมาอ้างถึงเมื่อมีใครสักคนประสบความสำเร็จ ข้อดีของมันที่ต่างจากพรสวรรค์คือความทรหดเป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้

: ความทรหดแบบยาก = สร้างด้วยตนเอง / ความทรหดแบบง่าย = ปรับตัวให้สอดคล้องกับคนอื่น

: หนังสือกล่าวว่าผู้มีความทรหดจะมีองค์ประกอบทางจิตวิทยาที่คล้ายคลึงกัน 4 อย่าง อันได้แก่ ความสนใจ การฝึกฝน จุดมุ่งหมาย และความหวัง โดยสิ่งเหล่านี้จะถูกขัดเกลาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างความทรหดจากภายใน

: การนำพาตัวเองไปอยู่ในระบบนิเวศแบบส่งเสริม เช่น ผู้คนที่มีทัศนคติแบบไม่ยอมแพ้ จริงจัง มีความพยายาม หรือมีวัฒนธรรมความทรหด ก็จะช่วยให้พัฒนาการของเรามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้โดยง่าย เป็นการสร้างความทรหดจากภายนอกซึ่งอาศัยการช่วยเหลือจากผู้อื่น

: หนังสือเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำในการเรียนรู้ที่จะฝึกฝนความทรหดเพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตหรือมุ่งสู่การประสบความสำเร็จ

: นอกจากนี้ หากคุณอยู่ในบทบาทของผู้ปกครอง พ่อแม่ ครูอาจารย์ หรือกระทั่งผู้นำและผู้บริหารที่ต้องการเรียนรู้วิธีสร้างความทรหดทางสภาพแวดล้อมให้แก่ผู้อื่น หนังสือก็มีการอ้างถึงอยู่ในส่วนสุดท้าย ซึ่งประกอบไปด้วยการเลี้ยงดูลูกให้มีความทรหด สนามการศึกษาแห่งความทรหด และวัฒนธรรมแห่งความทรหดด้วย

: หนังสือเต็มไปด้วยการอ้างถึงงานวิจัยและผลการทดลองจำนวนมากในการสนับสนุนแนวความคิดของการสร้างความทรหดและการเรียนรู้ฝึกฝน ช่วยให้ชุดข้อมูลมีความน่าเชื่อถือ และบางส่วนใช้การสัมภาษณ์ผู้คนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เราเห็นมุมมองได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
รีวิวหนังสือ GRIT พรสวรรค์และความพยายาม

ทฤษฎีการก้าวสู่ความสำเร็จ

ในชีวิตของคนเรา อาจมีบางช่วงเวลาที่เคยคิดว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จำเป็นจะต้องมีสิ่งหนึ่งที่ถูกกำหนดมาไว้โดยกำเนิดอยู่แล้ว นั่นคือ “พรสวรรค์” ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ทางวิชาการหรือศิลปะแขนงต่าง ๆ ซึ่ง Angela Duckworth ได้มีการตีพิมพ์บทความถึงการนำเสนอทฤษฎีด้วย 2 สมการที่อธิบายว่าเราพัฒนาจากพรสวรรค์ไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไร ดังนี้

พรสวรรค์ x ความพยายาม = ทักษะ

ทักษะ x ความพยายาม = ความสำเร็จ

เพราะศักยภาพที่คนเรามีนั้น เป็นคนละเรื่องเดียวกันกับการนำไปใช้ ต่อให้พรสวรรค์เด่นชัดเปล่งประกาย แต่หากปราศจากการนำไปขัดเกลาฝึกฝน มันก็อาจเป็นได้แค่ความสามารถติดตัวแบบคงที่ จะสังเกตได้ว่าในสมการความสำเร็จของเธอนั้น ปรากฏเงื่อนไขของความพยายามถึงสองตำแหน่ง แสดงถึงความสำคัญไม่น้อยของสิ่ง ๆ นี้ในการที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ โดยความพยายามที่มีส่วนผสมของความมุ่งมั่นจริงจังอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมล้มเลิกแม้จะล้มเหลวเมื่อมีจุดมุ่งหมายใหญ่ที่ต้องการไปให้ถึง นั่นจึงเรียกว่า ‘ความทรหด’ หรือ GRIT นั่นเอง

หากใครที่อยากรู้ว่าตัวเองมีความทรหดมากแค่ไหน ภายในหนังสือยังมีแบบทดสอบที่ทางผู้เขียนใช้ในงานวิจัยของตนเองมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองเปรียบเทียบคะแนนความทรหดกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนอเมริกันวัยผู้ใหญ่ไว้ด้วย (แน่นอนว่าคะแนนของเราต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ฮ่า ๆ) แต่ถึงอย่างไรก็ทำให้เราได้สะท้อนมุมมองตัวเองบางส่วนถึงความทรหดที่หลบซ่อนอยู่ภายในให้ได้เห็นเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

การสร้างความทรหดให้กับตัวเอง

จากผลการวิจัยต่าง ๆ ของผู้เขียน ทั้งในส่วนที่ทำการศึกษากับนักเรียนเตรียมทหารที่เวสต์พอยต์และผู้เข้าแข่งขันสะกดคำระดับชาติ สามารถสรุปองค์ประกอบทางจิตวิทยาที่พบในผู้ที่มีความทรหดเหมือนกันได้ทั้งหมด 4 องค์ประกอบโดยมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเด่นชัดมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านเลยไป และหากเราต้องการเป็นหนึ่งในผู้ที่ฝึกฝนการสร้างความทรหดจากภายใน เราก็ควรจะปั้นแต่งสิ่งเหล่านี้เข้ามาไว้ในชีวิต ซึ่งได้แก่

1.) ความสนใจ

เป็นองค์ประกอบแรกเริ่มจากการรักในสิ่งที่ทำ เมื่อรู้สึกสนุกและเกิดความอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่สิ้นสุดจะทำให้จากความสนใจกลายเป็นความหลงใหล หนังสือชี้ให้เห็นว่าแม้จะเป็นองค์ประกอบที่แสดงถึงความทรหดได้แต่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการค้นพบที่จะนำไปสู่การพัฒนาและเพิ่มพูนการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่ง ๆ นั้นไปตลอดชีวิต

หลายคนอาจคอตกด้วยคำถามที่ว่า ‘แล้วอะไรกันล่ะคือสิ่งที่ฉันรักอย่างแท้จริง?’ อะไรกันที่จะดูดดึงความสนใจให้กลายเป็นความหลงใหลได้ โชคดีที่คำตอบของสิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากการหยั่งรู้ หากแต่ต้องอาศัยการบ่มเพาะและขัดเกลาไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องผิดหากเราจะไม่พบเจอสิ่งที่ใช่ในเวลาที่ต้องการ เราเพียงแค่ต้องใช้เวลาไปกับมันและทดลองทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อมุ่งไปยังหนทางที่ชอบ

2.) การฝึกฝน

หลังจากที่เราค้นพบสิ่งที่ความหลงใหลทำงานได้อย่างไม่สิ้นสุด ต่อจากนั้นเราจึงมุ่งสู่หนทางแห่งการพัฒนาด้วยวิธีการฝึกฝนอย่างจดจ่อ และการทำให้มันบรรลุประสิทธิผลสูงสุดนั้นสามารถทำได้โดยอาศัยหลักพื้นฐานของตัวมันเองอยู่แล้ว ได้แก่ การมีเป้าหมาย มีความพยายาม มีการพัฒนาและขัดเกลาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำให้เรื่องของการฝึกฝนนี้อยู่ในตารางกิจวัตรประจำวันก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถฝึกฝนได้โดยอัตโนมัติ (ในพาร์ทนี้ทำให้เรานึกถึงหนังสือสอนสร้างนิสัยชื่อดังอย่าง Atomic Habits)

อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้การฝึกฝนของเราไม่ล้มเหลวเสียก่อน นั่นคือการมีทัศนคติต่อความล้มเหลวหรือความผิดพลาดให้เป็นไปในเชิงบวก โดยฝึกเรียนรู้ที่จะมองสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นความท้าทายหรือประสบการณ์พร้อมกับเรียนรู้ที่จะก้าวข้ามผ่านและฟันฝ่าเพื่อไม่ให้มันวนกลับเข้ามาตอกย้ำได้อีก

3.) จุดมุ่งหมาย

นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นแรงผลักดันให้กับความหลงใหลของคุณกระทั่งรู้สึกต้องการมองเห็นการเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า เราชื่นชอบที่พาร์ทนี้ไม่สร้างความกดดันให้กับผู้ที่กำลังเริ่มต้นสร้างความทรหดให้กับตัวเอง หนังสือชวนชี้ให้เห็นว่าจุดมุ่งหมายหรือสิ่งที่เราเรียกร้องนั้นอาจได้มาจากการเฝ้ามองอย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่การออกตามหา หากคุณมีงานหนึ่งอยู่แล้วตรงหน้า จงมองหาว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างไร หรือหากคำตอบคือไม่ แล้วคุณพอจะปรับมันสักเล็กน้อยได้ไหมให้มันมีความหมายมากขึ้นกว่าที่เป็น

สาเหตุที่เราต้องมองหาจุดมุ่งหมายซึ่งสัมพันธ์กับแง่มุมที่กว้างกว่าตัวเรา นั่นเพราะผู้เป็นตัวอย่างด้านความทรหดล้วนให้ความเห็นที่ตรงกันว่าพวกเขามีแรงผลักดันมากกว่าเมื่อสิ่งสำคัญนั้นให้คุณค่าทั้งกับตัวเองและผู้อื่น

4.) ความหวัง

ในแง่มุมของการสร้างความทรหดนั้น ความหวังคือความมุ่งมั่นในการ “ทำ” พรุ่งนี้ให้ดีกว่าเดิม ในส่วนนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ Mindset ของคนเรา โดยจากผลการทดลองต่าง ๆ ที่ผู้เขียนอ้างถึง ทำให้สามารถสรุปได้ว่าผู้ที่มีกรอบความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth Mindset) จะส่งผลให้เกิดการใช้ความพยายามในการก้าวข้ามผ่านความล้มเหลวได้มากกว่าในท้ายที่สุด

รีวิวหนังสือ GRIT ความทรหดที่ฝึกฝนได้

การสร้างความทรหดให้กับผู้อื่น

หากอยากให้ตัวเราเองนั้นเป็นสภาพแวดล้อมของความทรหดให้กับบุคคลรอบข้างหรือใครสักคน สำหรับเด็ก ๆ เราอาจจะต้องเป็นตัวอย่างให้ในขณะที่พวกเขากำลังเจริญเติบโตตามวัย หรือเราอาจต้องใช้กลวิธีดึงพวกเขาให้เข้าสู่สนามแห่งการฝึกความทรหด อย่างเช่นกิจกรรมนอกกรอบหลักสูตรวิชาการ หรือการเล่นสนุกสนานอย่างสร้างสรรค์ ส่วนสำหรับผู้คนอื่น ๆ รอบข้าง การมีบรรทัดฐานและค่านิยมรูปแบบเดียวกันย่อมถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวัฒนธรรมที่เรามีนั้นคือทัศนคติของการไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ

หนังสือมีการตั้งคำถามให้ทบทวนตัวเองเป็นระยะ ๆ และในส่วนของการเลี้ยงดูลูกให้มีความทรหดนั้น ผู้เขียนได้ใช้การสัมภาษณ์แบบเปรียบเทียบให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการเลี้ยงดูแบบคนละขั้วทั้งการเลี้ยงดูด้วยวิธีส่งเสริมและเคี่ยวเข็ญ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่จำเป็นเลยว่าคุณจะต้องเลือกด้านใดด้านหนึ่งในเมื่อมันสามารถทำไปพร้อม ๆ กันได้ สิ่งสำคัญคือวิธีการสื่อสารที่จะทำให้เด็ก ๆ ตระหนักรู้ว่ามันนำไปสู่ผลลัพธ์ใดต่างหาก

การลงมือทำคือหน้าที่ของเรา

เราชอบที่หนังสือไม่ได้โอ้อวดความเป็นนามธรรมนี้จนสูงลิ่ว ทว่าบอกเล่าอย่างซื่อตรงผ่านผลการวิจัย ประสบการณ์ชีวิต และความคิดตกผลึกของนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ทั้งนี้ ผู้เขียนทำเพียงแนะนำและบอกเล่าว่าคุณจะทำอะไรได้ ในขณะที่ก็ยอมรับว่าเพียงแค่การบอกว่า ‘คุณทำได้’ ไม่อาจช่วยให้คุณเกิดการพัฒนาได้จริงเท่ากับการที่คุณบอกตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สำหรับหนังสือ GRIT นี้ เราจำเป็นต้องใช้สมาธิค่อนข้างสูงในการอ่านและทำความเข้าใจ เนื่องจากมีผลการทดลองและผลการวิจัยจำนวนมากที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงแต่ละประเด็นแนวคิด อาจด้วยเพราะสิ่งที่มีลักษณะเป็นนามธรรม จับต้องได้ยาก และประเมินคุณค่าตายตัวไม่ได้นั้นสามารถใช้การตีความได้หลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ แต่ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเริ่มต้นเรียนรู้และฝึกฝนบางสิ่งที่นอกเหนือไปจากความสามารถติดตัวโดยกำเนิดแล้ว

ลองเริ่มฝึก GRIT จากการอ่านเล่มนี้ดู


🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์

“GRIT : The Power of Passion and Perseverance สิ่งที่ต้องมี…เมื่อคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิต”

ผู้เขียน : Angela Duckworth
(จารุจรรย์ คงมีสุข แปล)

จำนวนหน้า : 368 หน้า / ราคาปก : 340 บาท

สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น

หมวด : พัฒนาตนเอง

จักรวาลของความเจ็บ รีวิว หนังสือ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกถึงความเจ็บตามร่างกายอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะด้วยอายุที่มากขึ้น หรือกิจวัตรประจำวันที่ไม่ทันสังเกต กระทั่งความเจ็บได้กลายมาเป็นความกังวลใจ เราอยากชวนคุณเรียนรู้กลไกความเจ็บทั้งหลาย เพื่อว่าเราอาจฟื้นฟูหรือย้อนรอยเรียนรู้มันได้ ก่อนที่จำเป็นจะต้องไปรักษาจริงๆ
ก.ค. 22, 2024
หนังสือพัฒนาตนเอง รีวิว บทเรียนชีวิต หนังสือจิตวิทยา
หากปัญหาความสัมพันธ์ ความคิดความเชื่อ หรือการดำเนินชีวิตของคุณกำลังสะดุดติดขัด นั่นอาจเป็นสัญญาณให้คุณหยิบ 'แผนที่ชีวิต' ขึ้นมาปรับปรุงแก้ไข ร่วมปัดฝุ่นเส้นทางเดินชีวิตที่คุณเลือก ผ่านแนวคิดและบทเรียนของจิตแพทย์ที่ฝากไว้ ให้ทบทวนและตั้งคำถามใหม่กับตัวเองอีกครั้ง
พ.ย. 24, 2023
รีวิวหนังสือ การฟื้นฟูร่างกาย วิถีสแตนฟอร์ด หมวด สุขภาพ
หนังสือว่าด้วยเรื่องการฟื้นฟูและป้องกันร่างกายจากความเหนื่อยล้าสะสม เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้คำแนะนำตั้งแต่เรื่องระบบการหายใจ การขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน อาหาร ไปจนถึงทัศนคติ
ต.ค. 21, 2021
รีวิวหนังสือ ซ่อมแซมสุขที่สึกหรอ
บาดแผลที่มองไม่เห็นนับเป็นสิ่งที่เยียวยาได้ยากยิ่งกว่ารอยแผลที่เราเห็นตามร่างกาย มาร่วมค้นพบชุดปฐมพยาบาลจิตใจและเรียนรู้วิธีปกป้องตนเองให้ได้ก่อนที่รอยช้ำทางอารมณ์จะทำร้ายตัวตนเราจนพังทลายอย่างยากที่จะฟื้นคืน
มิ.ย. 4, 2023