สภาวะทางอารมณ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเฉพาะตัว
สิ่งที่เปรียบเสมือนแรงผลักดันให้เรามุ่งไปสู่ทิศทางการแสดงออกทางอารมณ์นั้น ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากประสบการณ์
และหากชีวิตของเราทุกคนที่มีเวลาเป็นเงื่อนไขจำกัดแล้ว
การเรียนรู้ประสบการณ์ผู้คนผ่านการวิเคราะห์ตีความและเผยแพร่ออกมาเป็นเทคนิคโดยนักจิตวิทยา ก็น่าหยิบมาทำความรู้จักอยู่ไม่น้อย
✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน
ปรมาจารย์เหมียวเทพกระบี่ (Zhou Ruo Yu) อาจารย์ทางด้านจิตวิทยา และนักเขียนหนุ่มชาวจีน ผู้ได้รับการแนะนำจากเว็บไซต์มากกว่าพันแห่ง รวมทั้งสื่อใหญ่ต่าง ๆ อีกมาก เช่น People’s Daily Thought Focus และ Ten O’Clock Reading บทความบนช่องทางโซเชียลมีเดียของเขาช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจากคนวัยหนุ่มสาวชาวจีน
🎯 มุมมองสรุป
: หนังสือใช้ลักษณะการเล่าเรื่องแบบมุมมองของบุคคลที่ 1 ซึ่งเป็นตัวของผู้เขียนเอง กล่าวถึงประสบการณ์ของตนเองและเรื่องราวของผู้อื่น บางส่วนมาจากผู้ที่มาขอคำปรึกษาจากเขา โดยวิเคราะห์ตีความพฤติกรรมและสรุปออกมาเป็นเทคนิคเชิงจิตวิทยาตามความถนัดของผู้เขียน : เนื้อหาส่วนใหญ่มีการมุ่งเน้นไปยังเรื่องความสัมพันธ์ทั้งต่อผู้คนรอบข้างและภายในตัวเอง เพื่อการสร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของอารมณ์ (อนุมานว่าเป็นไปได้ที่คนเรามักขอรับคำปรึกษาจากผู้อื่นในเรื่องของความสัมพันธ์มากที่สุด) : จุดเด่นของการนำเสนอในมุมมองเราคือแต่ละเรื่องราวนั้นจบภายในตัวเอง ความยาวหัวข้อขนาดกลางและใช้เวลาอ่านไม่นานมาก สามารถกระตุ้นความรู้สึกให้เราคิดตามแล้วรับรู้แนวความคิดนั้นมาประยุกต์เข้ากับประสบการณ์ส่วนตัว เต็มไปด้วยเทคนิคยิบย่อยมากมายสอดแทรก เสมือนการอ่านบทความบนบล็อกที่ถูกรวบรวมเรื่องราวมาจัดหมู่ไว้ด้วยกัน : รูปแบบหนังสือเป็นงานเขียนตัวอักษรล้วน ไม่มีภาพประกอบ แต่มีการเน้นประโยคที่เป็นใจความสำคัญที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อสาร ช่วยสร้างโทนการอ่านได้บ้างพอสมควร : เนื้อหาแบ่งออกเป็น 6 บท ได้แก่ (1) คนที่พูดเป็นแค่เอ่ยปากก็ชนะแล้ว (2) อีคิวสูง ไม่ใช่แค่พูดเป็นอย่างเดียว (3) มองดูเหมือนคุณเก่งกาจมาก ดังนั้นจึงไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง (4) ไม่ใช่เก่งแล้วจึงแข็งแกร่ง แต่เป็นแข็งแกร่งแล้วจึงเก่งต่างหาก (5) ปรมาจารย์ด้านอีคิวที่แท้จริง ไม่แพ้ให้กับตัวเองง่าย ๆ (6) คนเก่ง ไม่เคยแพ้ให้กับอารมณ์ง่าย ๆ : เหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เทคนิคเพื่อนำไปฝึกฝนทักษะทางอารมณ์และการแสดงออกในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ทั้งเพื่อการสานสัมพันธ์และการแก้ปัญหา (แต่เนื้อหาประสบการณ์ที่ผู้เขียนหยิบยกมาเรียนรู้และให้ข้อคิดนั้นมีเรื่องความรักอยู่เยอะกว่าในความรู้สึกเรา) และผู้ที่ต้องการหาหนังสือพัฒนาตนเองที่เล่าเรื่องราวเทคนิคแบบความเรียงมากกว่าขั้นตอน : แท้จริงแล้วการไม่พ่ายแพ้ต่ออารมณ์อาจหมายถึงสภาวะที่เรามีสติสัมปชัญญะในการคัดเลือกสิ่งที่เหมาะสมในสถานการณ์ที่เหมาะสม และด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นก็อาจช่วยให้มุมองทางเลือกในการตัดสินใจของเรามีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
สื่อสารผ่านเรื่องเล่าและประสบการณ์ผู้คน
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ล้วนแล้วแต่ใช้การสื่อสารในทุก ๆ วันไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่อยู่กับตัวเอง ความหลากหลายของบุคลิกเฉพาะในแต่ละบุคคลทำให้การสื่อสารนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยสร้างความเข้าใจกันและกันได้ดีที่สุด โดยเฉพาะการสื่อสารทางตรงด้วยวิธีการพูดคุย
ด้วยความรู้ความสามารถทางด้านจิตวิทยาของผู้เขียนที่ใช้วิเคราะห์ความหมายการแสดงออกและพฤติกรรมแฝงต่าง ๆ จะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์และขับเคลื่อนไปสู่ทิศทางที่เราอยากให้เป็นไป ทำให้หลายเรื่องราวที่นำมาเล่าดูน่าสนใจและให้แง่คิดไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ
ระหว่างที่เราอ่านการตีความและคำนำเสนอมุมมองเชิงเทคนิคจิตวิทยาเหล่านั้น บางครั้งก็รู้สึกเหมือนได้รับการปลอบประโลมไปพร้อม ๆ กัน นับเป็นหนังสือที่มีความ Empathy เล่มหนึ่ง แต่สำหรับคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแล้ว หรือผู้ที่ไม่นิยมหนังสือเปรียบเปรยที่มาพร้อมความสรุปโดยไม่กล่าวอ้างถึงหลักฐานงานวิจัยหรือในทางวิทยาศาสตร์มากนัก เรื่องเล่าเหล่านี้อาจเป็นมุมมองประสบการณ์ผิวเผินเกินกว่าจะใช้เป็นบทเรียนสอนแง่มุมสภาวะทางอารมณ์ได้
แต่นี่ก็อาจเปรียบเสมือนโอกาสที่ช่วยให้เราเปิดกว้างเพื่อเรียนรู้และไม่ตัดสิน ไม่ว่าจะตัวเองหรือผู้อื่น เป็นก้าวแรกสู่วิธีเรียนรู้ความฉลาดทางอารมณ์อย่างผู้มี Growth Mindset
ประตูสู่การสื่อสารที่ดีคือความเคารพในอีกฝ่าย
หนังสือมีวิธีการลำดับเรื่องราวเริ่มต้นตั้งแต่การพูดคุยที่จะแสดงออกถึงความฉลาดทางอารมณ์อย่างแท้จริง ด้วยวิธีการให้ความเคารพอีกฝ่ายในการเชื่อมความสัมพันธ์ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรก คล้ายเป็นการเปิดประตูสู่การพูดคุยอย่างอ่อนโยน เพราะคนที่พูดเป็นนั้นต่างจากคนพูดเก่งตรงวิธีการสื่อสารที่จะมีความเป็นศิลปะและแยบคายกว่า ปรมาจารย์เหมียวเทพกระบี่ได้หยิบยกประสบการณ์ของผู้คนมาเล่าพร้อมทั้งสอดแทรกเทคนิควิธีการเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เราได้ลองเก็บไปคิดตามตลอดทั้งเล่ม เช่น การใช้เทคนิคปิดกั้นการปฏิเสธในบทสนทนาที่จะทำให้อีกฝ่ายเผลอตอบตกลง หรือเทคนิคภาษาทางจิตวิทยาที่ใช้เป็นเครื่องป้องกันการโจมตีทางคำพูดแทนการเงียบเฉย
ไม่เพียงแค่การพูดคุยเท่านั้น ผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะรู้วิธีสื่อสารเชิงรับด้วยการฟังอย่างมีชั้นเชิง ซึ่งความสามารถในการรับฟังนี้เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่หนังสือได้กล่าวเสริมไว้เพื่อช่วยให้บทสนทนาที่เต็มไปด้วยความขุ่นข้องทุเลาลง
เทคนิคการอ่านใจแบบเย็น
การคำนึงถึงสิ่งที่เหนือกว่าบทสนทนาและมักแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นท่าทางอวัจนภาษาต่าง ๆ รวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบรวมเป็นบุคคล ๆ นั้น เทคนิคนี้หนังสือกล่าวไว้ว่าเป็น “เทคนิคการอ่านใจแบบเย็น” หรือ เทคนิคแบบนักมายากล โดยใช้วิธีการคาดเดาอย่างมีรูปแบบผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้มีโอกาสถูกต้องมากที่สุด แล้วจึงตรวจดูปฏิกิริยา เมื่อค้นพบเรื่องสำคัญที่ถูกต้องโดยบังเอิญจึงกล่าวเน้นถึงสิ่งนั้นต่อไปโดยไม่ต้องคำนึงถึงการคาดเดาที่ผิดพลาดก่อนหน้า (เมื่อได้รู้จักเทคนิคนี้เรารู้สึกว่าในชีวิตน่าจะมีคนเคยทำแบบนี้อยู่แล้ว อาจถูกเรียกในชื่ออื่นหรือไม่มีชื่อเรียก และการจะใช้ได้ผลจริงต้องแม่นยำให้ได้ในจำนวนน้อยครั้ง เพราะถ้าฝืนเดาไปเรื่อยคงกลายเป็นการทำลายความสัมพันธ์ทางอ้อมแน่ ๆ !!)
เลือกความสัมพันธ์ด้วยการมองโลกตามความเป็นจริง
ทว่าในแง่มุมของความรักที่ดูจะเป็นบ่อเกิดของปัญหาต่อความรู้สึกไม่น้อยนั้น ผู้เขียนได้ชี้ชวนให้มองมุมย้อนกลับมายังตนเองแทนการตั้งคำถามใส่ผู้อื่น อาจเป็นเพราะการพยายามค้นหาคำตอบจากคนที่ไม่แม้แต่จะใส่ใจถึงการตั้งคำถามของเรานั้นดูจะเป็นเรื่องเสียเวลาอย่างยิ่ง การกำหนดทางเลือกของตัวเองและการถอยออกมาตั้งหลักด้วยการมองโลกตามความเป็นจริงคือสิ่งที่เขาบอกเล่าถึงวิธีเข้าถึงความสัมพันธ์ที่ปรารถนา
ตรวจสอบความพยายามของตัวเองบ้าง
หลังจากคำแนะนำทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างผู้อื่นแล้ว ในส่วนต่อไปผู้เขียนได้นำพาเรากลับมาสื่อสารกับตัวเอง อาจจะด้วยความกดดันทางสังคมและความรวดเร็วของยุคสมัยใหม่ที่ดูราวกับบีบบังคับให้เราต้องพยายามอยู่ตลอดเวลา ปรมาจารย์เหมียวเทพกระบี่ได้ชี้ชวนย้อนกลับมาดูสิ่งที่เราเรียกว่าความพยายามนั้นจริง ๆ ว่านี่อาจกลายเป็นสิ่งที่สังหารความสำเร็จที่เราเฝ้าไขว่คว้า เป็นการเสนอแง่มุมที่ช่วยลดความกดดันของตัวเองลง มองความจริง และมุ่งให้เราสะสมเก็บเกี่ยวความสุขทีละน้อยจนกอบรวมเข้าเป็นความสำเร็จชิ้นโต
สร้างพลังที่หยุดยั้งการจำนนต่ออารมณ์
ข้อความบางส่วนมีลักษณะกระตุ้นเสริมแรงบันดาลใจอย่างรุนแรง และส่วนใหญ่นั้นมาจากมุมมองของผู้เขียนในฐานะนักจิตวิทยาและผู้ชายคนหนึ่ง การอ่านประสบการณ์ของผู้อื่นเป็นวิธีการเรียนรู้ที่เราไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะใช้ได้ผลในทุกคนและทุกครั้ง แต่การได้รู้ถึงมุมมองและแนวทางที่ต่างออกไปก็ย่อมให้การตัดสินใจ (ภายใต้ความมีสติ) เป็นไปอย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น
การใช้ความฉลาดทางอารมณ์นั้น แท้จริงแล้วคือการรู้จักเลือก ควบคุม และจัดการกับสภาวะทางความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ของเราที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยอมรับในการตัดสินใจของตัวเอง โดยอยู่บนพื้นฐานที่ไม่ก้าวก่ายล่วงล้ำในสิทธิของผู้อื่นด้วย
และคนที่เก่งจริง – มีความฉลาดทางอารมณ์จริง ก็ย่อมไม่หมกมุ่นจมจ่อมอยู่กับอารมณ์ใด ๆ จนไม่ยอมก้าวไปข้างหน้า
เพราะต้องอย่าลืมว่า กาลเวลาไม่เคยเวียนกลับมาให้เราได้ใช้ซ้ำ
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
“คนเก่งจริง จะไม่พ่ายแพ้ต่ออารมณ์”
ผู้เขียน : ปรมาจารย์เหมียวเทพกระบี่
(ดลฤดี เอกอินทร์ แปล)
จำนวนหน้า : 332 หน้า / ราคาปก (พิมพ์ใหม่) : 350 บาท
สำนักพิมพ์ : วารา
หมวด : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง