“เวลาคือสสารที่สร้างผมขึ้นมา …
เวลาคือแม่น้ำที่พัดพาผมไป แต่ผมนั่นเองคือแม่น้ำ
เสือคือสิ่งที่คร่าชีวิตผม แต่ผมเองก็คือเสือตัวนั้น
ไฟกลืนกินผม แต่ไฟนั้นก็คือผมเอง”
– ฆอร์เฆ ลุยส์ บอร์เกส (จากหนังสือหน้า 198-199)
✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน
Oliver Burkeman อดีตคอลัมนิสต์ชาวอังกฤษ เคยได้รับรางวัลนักข่าวรุ่นเยาว์แห่งปีของสมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศ (FPA) เจ้าของคอลัมน์โด่งดัง 'This Column Will Change Your Life' ของ The Guardian และยังมีงานเขียนลงใน The New York Times, The Wall Street Journal, Psychologies และ New Philosopher
🎯 มุมมองสรุป
: ‘สี่พันสัปดาห์’ เป็นระยะเวลาโดยประมาณที่เรามีลมหายใจอยู่บนโลกเพื่อใช้ชีวิตที่เป็นตัวเราเอง คนจำนวนไม่น้อยพยายามที่จะยัดทุกอย่างลงในกรอบเวลาที่ว่านี้เพื่อผลิตภาพหรือความโปรดักทีฟสูงสุดด้วยหวังจะให้มันสนองตอบทุกความต้องการหรือทุกกิจกรรมในชีวิต ซึ่งทำให้ดูราวกับว่าอนาคตได้พรากช่วงเวลาสำคัญอย่างปัจจุบันของพวกเขาไปโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว : หนังสือไม่ได้บอกว่าการมีเวลาเพียงแค่ราว ๆ สี่พันสัปดาห์นี้คุณควรจะต้องบริหารมันเพื่อการใช้ทุกวินาทีของชีวิตให้คุ้มค่า หากแต่เสนอมุมมองที่ช่วยให้เรายอมรับและตระหนักถึงความสำคัญของข้อจำกัดที่ว่านี้เพื่อเลือกสิ่งที่มีความหมายกับตัวเองได้มากกว่าเดิม : มันจึงเป็นอีกเล่มที่ช่วยพลิกมุมมองให้กับโลกปัจจุบันที่ดูจะให้คุณค่ากับ Productive , Multi-tasking และการหมกมุ่นกับอนาคตมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็มอบแง่มุมที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกเห็นคุณค่าในทางเลือกของเรามากยิ่งขึ้น : เนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนที่ 1 เลือกที่จะเลือก – ชีวิตที่ยอมรับการมีขีดจำกัด / กับดักของการมีประสิทธิภาพ / เผชิญหน้ากับการมีจุดสิ้นสุด / เป็นผู้ผัดวันประกันพรุ่งที่ดีกว่าเดิม / ปัญหาเรื่องแตงโม / ผู้รบกวนที่ใกล้ชิด ส่วนที่ 2 เหนือการควบคุม – เราไม่เคยมีเวลาจริง ๆ หรอก / คุณอยู่ตรงนี้ / ค้นพบการพักผ่อนอีกครั้ง / วังวนของความใจร้อน / อยู่บนรถบัสต่อไป / ความโดดเดี่ยวของดิจิทัลโนแมด / การบำบัดด้วยการตระหนักว่าเราไม่ได้สำคัญในจักรวาล / โรคมนุษย์ และมีบทส่งท้ายพร้อมภาคผนวกที่จะแนะนำเทคนิค 10 ประการเพื่อให้คุณสามารถเปิดรับข้อจำกัดในชีวิตประจำวันและนำไปใช้ได้ทันที : ต้องยอมรับว่าช่วงแรกของหนังสือพาเรารู้สึกต่อต้านเล็กน้อยกับการมองเรื่องการบริหารเวลาว่าเป็นความล้มเหลวอย่างน่าอนาถ (อ้างอิงข้อความเดียวกับหนังสือเลย) แต่เมื่อเปิดอ่านผ่านไปทีละบท การนำเสนอของผู้เขียนกลับสร้างมุมมองที่สดใหม่ของวิถีการดำเนินชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราจึงอ่านไปเรื่อย ๆ และพบว่ามีหลายบทตอนที่กระตุ้นให้เห็นความจริงอีกด้านที่เราอาจไม่ทันได้คิด และแน่นอนว่ามันเป็นอีกเล่มที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ตามหามุมมองการใช้ชีวิตให้มีความสุข
คุณเป็นนักวางแผนตัวยงคนหนึ่งหรือเปล่า รายการสิ่งที่ต้องทำของคุณดูจะยาวเป็นหางว่าวไปจนถึงปลายสัปดาห์หน้าเลยหรือไม่ หรือว่าคุณกำลังเป็นมนุษย์โปรดักทีฟ-มัลติทาสกิ้งมือฉมังในโลกที่หมุนไปตามกระแสทุนนิยมอย่างทุกวันนี้ เราไม่ได้กำลังจะบอกว่าทุกสิ่งที่คุณเลือกทำอยู่นั้นไม่ดี แต่หากคุณอยากได้มุมมองที่จะชวนคิดทบทวนอีกทีว่าการตัดสินใจเหล่านี้นั้นคู่ควรกับระยะเวลาสี่พันสัปดาห์โดยประมาณของคุณแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? นี่คือความสุขที่คุณเลือกใช้เวลาไปกับมันจริง ๆ หรือเปล่า?
นี่เป็นหนังสือที่คุณจำเป็นจะต้องหยิบมันขึ้นมาอ่านทันทีที่คุณอยากหาคำตอบ
เวลาไม่เคยพอ
เวลาเป็นสิ่งที่น่าฉงน โลกเราทุกวันนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกกว่ายุคโบราณมากมายที่จะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มากขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่ามนุษย์ยังรู้สึกว่าเรามีเวลาไม่มากพอเลยสักที เทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตเราเร็วขึ้นก็กลับยิ่งทำให้เราต้องการความเร่งที่มากขึ้นไปอีก เพราะเรารู้สึกว่ามันยังเร็วกว่านี้ได้ – มันยังมากกว่านี้ได้ สิ่งเหล่านี้ผลักดันให้เรารู้สึกว่าจะต้องควบคุมมันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด หารู้ไม่ว่าเมื่อเราไปถึงจุดที่มีประสิทธิภาพที่สุด เราก็จะรู้สึกว่ายังสามารถพบกับความมีประสิทธิภาพที่มากกว่านี้ได้รออยู่ข้างหน้าไม่จบไม่สิ้น รู้ตัวอีกทีเราก็หมดแรงเหนื่อยล้าไปกับการวิ่งไล่กวดความคาดหวังในอนาคตที่ค่อย ๆ กร่อนปัจจุบันของเราไปทุกที
เปิดมุมมอง เปิดใจ ว่าคุณไม่มีทางควบคุมได้ทุกอย่าง
การเผชิญหน้ากับข้อจำกัดต่าง ๆ และเข้าใจว่าอนาคตไม่ใช่ความแน่นอนที่คุณจะกำหนดด้วยวิธีในปัจจุบันได้อย่างเต็มร้อย จะช่วยให้คุณถอยกลับมาอยู่กับสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้ได้อย่างแท้จริง ลองโยนมุมมองที่กล้ายอมรับว่าคุณต้องเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงเท่านั้น คุณอาจรักษางานปัจจุบันไว้ไม่ได้หากคุณต้องการเวลาที่มากพอให้กับลูก หรือการหาเวลาที่มากพอในแต่ละสัปดาห์เพื่อลงมือสร้างสรรค์ผลงานก็อาจหมายถึงการที่คุณจะพลาดการออกกำลังกายเท่าที่ควรจะเป็น ด้วยทัศนคติที่มองเห็นความบกพร่องและข้อจำกัดดังกล่าวจะทำให้คุณพร้อมเผชิญหน้ากับความจริงและตัดสินใจเลือกในสิ่งสำคัญได้โดยไม่คิดว่าคุณกำลังพลาด เพราะแน่นอนว่าคุณไม่มีทางควบคุมได้ทุกอย่าง
เพราะการมีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้มองเห็นคุณค่า
ในสถานการณ์ที่เราพยายามยัดทุกอย่างลงในกรอบเวลาที่มีอยู่เพียงน้อยนิดจนแน่นเอียดอาจทำให้เราพลาดโอกาสที่จะไตร่ตรองว่าสิ่งเหล่านั้นสำคัญพอที่เราจะใช้เวลาไปกับมันหรือไม่ ฉะนั้นการตระหนักว่าตัวเราคือเวลาที่เราใช้และหมดลงทุกวันจะทำให้เราเลือกกิจกรรมได้ดีกว่าเก่า อย่างน้อยมันก็ช่วยกระตุ้นเตือนว่าทางเลือกที่คุณตัดสินใจคือสิ่งที่คุณให้คุณค่า ไม่เช่นนั้นคุณคงไม่ยอมจ่ายมันไปด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดของคุณไปแน่ ๆ จริงไหม?
เพราะต้องเลือก มันจึงมีความหมาย (Happy Of Missing Out)
ในทำนองเดียวกันกับสิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัดย่อมทำให้ผู้คนมองเห็นคุณค่า การมีความสุขจากการพลาดบางโอกาสสำคัญที่คุณตัดสินใจเลือกจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเข้าใจความจริงของข้อจำกัดในชีวิต อย่างเช่น การเลือกว่าจะแต่งงานกับใครสักคน ซึ่งหมายถึงการปิดโอกาสในการพบและสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนอื่น ๆ ที่อาจมีดีกว่าหรือตรงกับความคาดหวังของคุณมากกว่า การเข้าใจว่าชีวิตคือการถูกจำกัดจากบางทางเลือกจะทำให้คุณรู้สึกดีกับการตัดสินใจของตนเอง เพราะหากคุณไม่เลือกให้ตนเองพลาดอะไรไป สิ่งที่เลือกไว้ก็อาจไม่ได้มีความหมายมากมายนักในชีวิต
ต่อให้มีแค่สี่พันสัปดาห์ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ถูกเขียนเพื่อฮีลใจหรือเยียวยาความรู้สึกผู้คนที่หลงอยู่ในวังวนแนวคิดการถมเต็มประสิทธิภาพของการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากแต่วิธีนำเสนอแง่มุมที่ต่างออกไปทางด้านการมองเห็นข้อจำกัดของเวลาและชีวิต ความบกพร่องและไม่มีทางที่จะสมบูรณ์แบบ ตลอดจนความไม่แน่นอนที่แน่นอนที่สุดของอนาคต ทำให้เราเปิดมิติความคิดที่มีต่อกิจกรรมที่ตัดสินใจเลือกทำและสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้สบายใจมากขึ้นกว่าเก่า หรืออีกแง่หนึ่งมันคือการสะท้อนวิธีบริหารเวลาที่จะช่วยให้คุณมีความสุขกับปัจจุบันขณะแทนที่จะเฝ้ารอให้ทุกอย่างบรรลุเป้าหมายถึงจะอนุญาตให้ตัวเองมีความสุขได้ เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดจากการพักผ่อนเพราะมันเหมาะสมแล้วที่จะถูกใช้ไปเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่ต้องรู้สึกว่ากำลังพลาดบางสิ่งหรือทางเลือกบางอย่างไปเพราะเรารู้แล้วว่าสิ่งที่เราเลือกคือสิ่งที่เราให้คุณค่า ยิ่งไปกว่านั้น เราไม่ควรคาดหวังว่าอนาคตจะเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ในปัจจุบันเพียงแต่ต้องทำสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ และนั่นคือทั้งหมดที่เราฉวยคว้าได้จากหนังสือที่ชวนทบทวนถึงชีวิตที่เราเลือกจะเป็นภายในสี่พันสัปดาห์
แน่นอนว่าสี่พันสัปดาห์ของทุกคนไม่มีทางเหมือนกัน
แล้วคุณอยากให้สี่พันสัปดาห์ของคุณเป็นแบบไหนคะ?
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
“ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์”
ผู้เขียน : Oliver Burkeman
(วาดฝัน คุณาวงศ์ แปล)
จำนวนหน้า : 226 หน้า / ราคาปก : 265 บาท
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ฮาวทู
หมวด : จิตวิทยา/พัฒนาตนเอง