… อย่าให้โครงการของ การทำให้ ชีวิตของคุณมีความหมาย
เข้ามาขวาง การรู้สึก ว่าชีวิตของคุณมีความหมาย …
( – จากหนังสือหน้า 178 )
- ✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน
- 🎯 มุมมองสรุป
- ความรู้ที่กว้างขวางของวิทยาศาสตร์ คือประกายแรกแห่งการเปิดโลกทัศน์ทางชีววิทยาของชีวิต
- ทำตามที่หัวใจเรียกร้อง – แนวคิดแห่งลัทธิโรแมนติกที่เข้ามาทำให้ชีวิตเรามีความหมาย
- จำกัดการตีความ ความหมาย ‘ของ’ ชีวิต ให้เป็น ความหมาย ‘ใน’ ชีวิต
- หนังสือที่ช่วยชี้ทางสู่ชีวิตอันเปี่ยมความหมายในแบบของคุณเอง
- 🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
✒️ เกี่ยวกับผู้เขียน
Frank Martela นักปรัชญาและนักวิจัยด้านจิตวิทยา มีความเชี่ยวชาญในเรื่องความหมายของชีวิต ผลงานของเขาได้รับการกล่าวถึงทางช่อง Quartz และ BBC อีกทั้งงานวิจัยยังได้รับการตีพิมพ์ผ่านวารสารทางวิชาการมากมาย เขาได้รับเชิญไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ใน 4 ทวีป รวมถึงสแตนฟอร์ดและฮาร์วาร์ด ปัจจุบันเขาประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยออลโต ในเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์
🎯 มุมมองสรุป
: ท่ามกลางความคับข้องใจสำหรับคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิต หนังสือเล่มนี้ได้พาคุณย้อนกลับไปถึงต้นตอของสาเหตุที่อาจมีผลต่อความพยายามของมนุษย์ที่จะค้นหาความหมายในการมีชีวิตอยู่ของตนเอง ผ่านยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนผ่านของวิทยาศาสตร์ที่สร้างความเข้าใจและมอบโลกทัศน์ใหม่ให้แก่ผู้คน : แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันได้พาคุณกลับมายังปัจจุบัน สถานที่ที่ซึ่งมีความหมายต่อคุณมากที่สุดและชวนให้คุณค้นพบความงดงามภายใต้ความหมาย ‘ใน’ ชีวิต โดยที่ยังคงเป็นตัวของตัวเองอยู่เช่นเคย : เนื้อหาภายในเล่มประกอบไปด้วย 3 ภาค ได้แก่ ภาคหนึ่ง ทำไมมนุษย์จึงแสวงหาความหมาย (1) เอาชนะความไร้สาระของชีวิต (2) เมื่อเทียบกับจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ชีวิตนี้ช่างไม่สำคัญ ไม่เที่ยง และไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่เห็นเป็นไร (3) ความสุขไม่ใช่เป้าหมายที่ดีนัก (4) ชีวิตนี้มีความหมายอยู่แล้ว ภาคสอง คำถามเรื่องความหมาย : เมื่อเรามองโลกจากมุมใหม่ (5) วิกฤตความหมายของชีวิตทำให้คุณเป็นคนสมัยใหม่ (6) แนวคิดแบบโรแมนติก (7) มีความหมาย “ใน” ชีวิต โดยจะมีหรือไม่มีความหมาย “ของ” ชีวิตก็ได้ (8) การสร้างระบบคุณค่าส่วนตัว ภาคสาม วิถีสู่ชีวิตที่เปี่ยมด้วยความหมาย (9) ทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์ (10) ช่วยเหลือคนอื่นคือการช่วยเหลือตัวคุณเอง (11) เป็นอย่างที่คุณเป็น (12) นำความสามารถออกมาใช้อย่างสร้างสรรค์ : พาร์ทที่เราชอบที่สุดของหนังสือคือภาคสุดท้ายที่สร้างมุมมองการรับรู้ความแตกต่างระหว่างปัจเจกชนนิยมและความเป็นอิสระแห่งตน และหนทางการค้นพบความหมายในแบบของตัวเองเพื่อที่คุณจะได้ไม่รู้สึกย้อนแย้งอยู่ลึก ๆ ว่าหรือวิธีการมีชีวิตที่งดงามในความคิดคุณนั้นกลายเป็นความเห็นแก่ตัวไปแล้ว
หากดูเพียงผิวเผิน เราอาจตีความความงดงามของชีวิตผ่านการให้ความหมายว่าเป็นชีวิตที่อยู่อย่างสุขสำราญใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก การจดจ่อกับความสุขและไขว่คว้าเพื่อเติมเต็มมากจนเกินไปมีส่วนที่จะทำให้คุณเฝ้าแสวงหามันอย่างไม่หยุดหย่อน เพราะไม่แน่ว่าเมื่อไปถึงจุด ๆ นั้นแล้วคุณจะยังจินตนาการถึงความสุขที่มากขึ้นไปอีก เพื่อความงดงามหรือความหมายที่ลึกซึ้งเพิ่มขึ้นอีก และมันยิ่งซับซ้อนกว่านั้น เมื่อความสุขของมนุษย์อาจเป็นคนละเรื่องเดียวกันกับการรู้สึกว่าพวกเขาเข้าถึงการมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย
แต่ก่อนที่เราจะเข้าถึงการค้นพบความหมายเหล่านั้น เพราะอะไร…ปริศนาของการค้นหาความหมายของชีวิตจึงกลายมาเป็นความท้าทายของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์อย่างแพร่หลายขนาดนี้?
ความรู้ที่กว้างขวางของวิทยาศาสตร์ คือประกายแรกแห่งการเปิดโลกทัศน์ทางชีววิทยาของชีวิต
จากเดิมที่เคยใช้ชีวิตอยู่บนความเชื่อ เมื่อตัวตนของมนุษย์ได้รับการตีความผ่านโลกทัศน์แบบวิทยาศาสตร์ โดยเผยภาพมุมมองของชีวิตให้เห็นว่ามนุษย์เราทั้งหลายล้วนก่อกำเนิดขึ้นในรูปแบบอนุภาคที่มากองรวมกัน อนุภาคซึ่งตามนัยยะแล้วยังไม่มีคุณค่า ไม่มีจุดประสงค์ในตัวของมันเอง แล้ววันหนึ่งตัวตนของมนุษย์ก็จะเน่าสลายไป ความเป็นเหตุเป็นผลพึงอธิบายได้ของวิทยาศาสตร์นี้ได้ทำให้เกิดคำถามอื่น ๆ ตามมา กระทั่งส่งผลให้เกิดวิธีคิดและแนวทางการจัดการของสังคมรูปแบบใหม่ ๆ แห่งยุคสมัย ไม่เว้นแม้แต่ความสงสัยถึงความหมายอันแท้จริงของการมีชีวิตอยู่
ทำตามที่หัวใจเรียกร้อง – แนวคิดแห่งลัทธิโรแมนติกที่เข้ามาทำให้ชีวิตเรามีความหมาย
เราอาจได้ยินคำกล่าวทำนองว่าให้เลือกทำตามหัวใจต้องการ ค้นหาสิ่งที่ใช่ อย่าจมอยู่กับอะไรที่ไม่ชอบ เพื่อนำทางชีวิตไปสู่สิ่งที่รักหรือสิ่งที่มีความหมาย และเป็นคำตอบของโจทย์ข้อใหญ่ที่จะทำให้รู้ได้ว่าเราเกิดมาทำไมบนโลกใบนี้ ผู้เขียนได้นำเสนอว่าวิธีคิดเหล่านี้มีโอกาสที่จะพาผู้คนให้เข้าสู่จุดวิกฤตของการพยายามตามหาความหมายของชีวิต และยังนำมาซึ่งแนวคิดอื่น ๆ อีกจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือแนวคิดแบบปัจเจกชนนิยมที่ค่อย ๆ แยกตัวตนของบุคคลออกจากกลุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้เรายึดมั่นกับการพึ่งพาตัวเอง ซึ่งบางครั้งมันอาจกลายเป็นความเคว้งคว้างที่ต้องพยายามเสาะหาแห่งหนความเป็นตัวตนโดยปราศจากความเชื่อมโยงกับสิ่งอื่น ๆ
จำกัดการตีความ ความหมาย ‘ของ’ ชีวิต ให้เป็น ความหมาย ‘ใน’ ชีวิต
เมื่อเราได้ทำความเข้าใจถึงพื้นหลังกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่มาของต้นกำเนิดคำถามใหญ่ที่ยากต่อการค้นหาคำตอบแล้ว ผู้เขียนก็พาเรากลับมาโฟกัสกับสิ่งที่ใกล้ตัวกว่านั้นอย่างประสบการณ์จริงของชีวิตที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ พิจารณาว่าสิ่งใดที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความหมายที่มากกว่าประสบการณ์อื่น ๆ และเราจะมีมันเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร และจงอย่าลืมว่าทุกคนไม่อาจมีชีวิตที่มีความหมายในแบบเดียวกันได้ เฉกเช่นกับการที่เราทั้งหลายต่างให้คุณค่าในแต่ละความรู้สึก แต่ละประสบการณ์ไม่เหมือนกัน
หนังสือที่ช่วยชี้ทางสู่ชีวิตอันเปี่ยมความหมายในแบบของคุณเอง
พอเราใช้คำว่า ‘ในแบบของคุณเอง’ แล้ว อาจทำให้เข้าใจไปว่าสิ่งเหล่านี้แฝงไปด้วยแนวคิดทางปัจเจกที่ขาดการสัมพันธ์กับสังคมภายนอก ในขณะเดียวกันเมื่อเราพูดถึงความสัมพันธ์กับสังคมภายนอก ก็อาจดูคล้ายกับว่าชีวิตนี้จะมีความหมายก็ต่อเมื่อคุณมีประโยชน์กับคนอื่น ๆ เท่านั้น นี่เป็นจุดสำคัญของหนังสือที่เราชอบที่สุด คือการชี้ให้เห็นถึงมุมมองที่จะช่วยสร้างบาลานซ์ให้เกิดขึ้นระหว่าง 2 สิ่งนี้ในชีวิตของคุณ การมีอิสระที่จะเป็นตัวเองโดยไม่ละทิ้งการได้ทำอะไรบางอย่างที่สำคัญและพ้นขอบเขตตัวตนของตัวเองด้วย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่หรือที่จะทำให้คุณรู้สึกได้อย่างเต็มเปี่ยมในความเป็นมนุษย์อันแสนจะงดงาม
แล้วนิยามความหมายของชีวิตที่คุณมี อาจกลายไปเป็นสิ่งที่คุณรู้ดีว่าไม่จำเป็นต้องค้นหามันอีกต่อไปแล้ว
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
“ชีวิตนี้คู่ควรที่จะงดงาม (A Wonderful Life)”
ผู้เขียน : Frank Martela
(วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ แปล)
จำนวนหน้า : 216 หน้า / ราคาปก : 259 บาท
สำนักพิมพ์ : Be(ing)
หมวด : จิตวิทยาพัฒนาตนเอง