… หญิงสาวผู้ทำสีหน้าราวกับเพิ่งแทงใครมาคนนี้
ความจริงแล้วถูกแทงจนเนื้อตัวเปรอะเปื้อนด้วยเลือดที่กระเซ็นกลับมาโดนตัวเอง
คำพูดซึ่งไม่ว่าใครได้ฟังก็คงจะรู้สึกว่าเป็นความโอ้อวดอันน่ารังเกียจ
แท้จริงแล้วคือเลือดที่เธอกระอักออกมา …
( – จากหนังสือหน้า 35 )
บนเส้นทางเดินรถไฟสายฮังคิวตั้งแต่สถานีทาคาระซึกะกระทั่งถึงสถานีปลายทางนิชิโนะมิยะคิตะงุจิ
ผู้คนที่เดินทางไปมาบนรถไฟขบวนเดียวกันย่อมมีโอกาสเกิดช่วงเวลาคาบเกี่ยวหรือกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันได้ทั้งโดยบังเอิญ โดยตั้งใจ หรือแม้แต่โดยความจำเป็น สถานการณ์เรียบเรื่อยที่ดูราวกับเป็นวิถีชีวิตประจำวันกลับสะท้อนภาพชวนคิดที่บ้างเป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นของบางสิ่ง การจบลงของบางอย่าง การหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านที่ชวนเผลอให้ระลึกถึงตนเอง และไม่ว่ามันจะเป็นส่วนประกอบของเรื่องราวแบบใด ความสัมพันธ์ที่แตะต้องกันบ้างผิวเผิน บ้างแน่นแฟ้นเป็นสายใยนั้นล้วนพาไปสู่การเติบโต
แกนหลักของการดำเนินเรื่องราวมีภาพเล่าของความสัมพันธ์จากผู้คนที่เดินทางโดยรถไฟขบวนนี้ที่ต่างหลุดเข้าไปเป็นตัวประกอบในมุมมองของแต่ละฝ่าย ชายหนุ่มหญิงสาวที่มักบังเอิญสนใจในหนังสือเล่มเดียวกัน ความรักที่ก่อตัวขึ้นผ่านบทสนทนาและการเรียนรู้ซึ่งกันและกันทีละน้อย ว่าที่เจ้าสาวที่ต้องล้มเลิกงานแต่งจากการถูกคนรักนอกใจ การใช้ชีวิตอยู่ในวงจรความสัมพันธ์เป็นพิษที่กว่าจะหลุดออกมาได้ หรือแม้แต่การเริ่มต้นบทบาทของชีวิตที่ตนเองมีสิทธิ์จะลิขิตขึ้นใหม่อีกหน ทุกคนต่างข้องเกี่ยวกันเพียงส่วนเสี้ยวทว่ากลับทำให้การดำเนินเรื่องที่น่าจะไหลระเรื่อยอ้อยอิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกสนใจใคร่รู้ต่อว่าชีวิตของพวกเขาจะเป็นเช่นไรไปพร้อม ๆ กับการเอาใจช่วย
ความน่าทึ่งที่ทำให้เราตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้คือวิธีการอธิบายความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อสถานการณ์ที่ถูกเล่าผ่านมุมมองของตนเอง บางครั้งมันสอดแทรกถ้อยความที่ชวนให้นึกย้อนถึงภาพทรงจำเฉพาะตัว บางคราวเป็นเรื่องราวอันแสนหวานปานว่าโลกนี้มีเพียงความรักที่จะขับเคลื่อนให้หมุนต่อไปได้ และถึงแม้บางคนที่โดยสารบนรถไฟสายฮังคิวนี้จะเผชิญช่วงชีวิตแห่งความขื่นขม พวกเขากลับถูกใครบางคนโอบอุ้มและชุบชูหัวใจขึ้นใหม่ เป็นผลงานวรรณกรรมเล่มหนึ่งที่จะไม่ปล่อยให้คุณอกหักพังทลายลงได้เลย คล้ายกับพยายามจะสื่อให้รู้ว่าเราทุกคนล้วนต้องเคยมีความเปราะบางแหว่งวิ่น แต่สุดท้ายเราจะกลับมาโบยบินได้อีกครั้ง
ไม่เพียงแต่การเปิดโอกาสให้รู้จักทำความเข้าใจจากการพาตัวเองไปอยู่ในมุมมองของฝ่ายอื่น ทุกเรื่องราวแสดงถึงมือที่หยิบยื่นพลังแห่งการเยียวยาไปยังบุคคลรอบข้าง ในโมงยามที่มืดมิดสุดหัวใจ หรือในวันที่เราไม่สามารถเป็นใครในแบบที่ตัวเราเองต้องการได้เลยสักนิด วรรณกรรมเรื่องนี้ราวกับต้องการบอกให้คุณลองออกเดินทางไปยังปลายทางใดสักแห่ง แล้วคุณอาจจะค้นพบว่าตัวคุณยังคงเป็น ‘คนบางคน’ ของ ‘ใครสักคน’ เสมอ
เพราะเราต่างเป็นตัวประกอบอันทรงคุณค่าแม้แต่ในวันที่เราคิดว่าเป็นตัวเอกอันไร้ความหมายในเรื่องราวของตนเอง
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
“คุณ ผม และผู้คนที่สวนกันบนรถไฟสายฮังคิว”
ผู้เขียน : อาริคาวะ ฮิโระ
(พลอยทับทิม ทับทิมทอง แปล)
จำนวนหน้า : 220 หน้า / ราคาปก : 255 บาท
สำนักพิมพ์ : Piccolo
หมวด : วรรณกรรมแปล