Skip to content
Home » Blog » ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต – ความมืดบอดที่ทับซ้อน ชีวิตที่ไม่อาจย้อนคืน

ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต – ความมืดบอดที่ทับซ้อน ชีวิตที่ไม่อาจย้อนคืน

ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต อ่านแล้ว รู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไร ความรู้สึกที่ได้ รีวิว

ตอนที่เราได้เห็นชื่อหนังสือเล่มนี้เมื่อครั้งนานมาแล้วในทีแรก ก็ให้รู้สึกถึงความฉงนงงงวยและสงสัยใคร่รู้ว่าภายในจะมีการเล่าเรื่องแบบไหน โดยไม่อ่านคำโปรย โดยไม่อ่านหลังปก รู้เพียงแค่ว่าเป็นของนักเขียนหญิงคนนี้ เป็นนวนิยายที่ได้รับรางวัลการันตีระดับชาติ เราก็ได้ตัดสินใจซื้อมันมาอ่านทันทีเมื่อผ่านมาพบมันอีกครั้งในร้านหนังสือมือสองออนไลน์ที่มีให้เห็นอย่างดาษดื่น หลังจากได้ซึมซับถ้อยคำปวดร้าวและความเป็นมนุษย์ของผู้เขียนมากมายผ่านสเตตัสเฟซบุ๊กของเธอเอง “วีรพร นิติประภา”

ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต เป็นนวนิยายที่ได้รับรางวัลซีไรต์ในปีพ.ศ.2558 และนั่นทำให้การหยิบยกหนังสือเล่มนี้มากล่าวถึงจากมุมมองส่วนตัวของเราค่อนข้างกังวลว่าควรจะนำความรู้สึกที่ได้รับมาบอกเล่าต่อดีหรือไม่ เพราะรางวัลนั้นชี้ชัดว่าทรงคุณค่าแก่การอ่านแล้ว เจ้าของผลงานก็ยังเป็นผู้อิ่มเต็มไปด้วยความรู้ความสามารถที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ด้วยความรู้สึกจุกเอ่อและท่วมท้นล้นอยู่ในอก ก็อดไม่ได้ที่อยากจะนำมาเล่าอยู่ดี (^^”) เพราะนอกเหนือจากคุณค่าทางสังคมที่ช่วยสะท้อนภาพบริบทคนหนุ่มคนสาวและภาพอุดมคติ คลังศัพท์ที่สวยงาม ไพเราะ สื่อความได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ต้องบอกว่าเรื่องราวที่ดูธรรมดาเฉกเช่นนวนิยายทั่วไปดังผู้เขียนว่าไว้นั่นก็ด้วย ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ยิ่งกว่าพล็อตใหม่แปลกหูแปลกตาที่เคยเฝ้าตามหา

เพราะการใช้ส่วนผสมเพื่อทำให้อรรถรสของความสามัญนั้นเฉิดฉายเจิดจรัสได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใคร ๆ ก็รู้

เรื่องราวบอกเล่าถึงชีวิตตัวละครหลัก ๆ อยู่ 3 ตัว คือ ชลิกา ชารียา – สองสาวพี่น้องผู้อาศัยอยู่ในบ้านริมแม่น้ำ ในครอบครัวที่ปริร้าวแหว่งวิ่นอยู่ภายใน – และปราณ เด็กชายผู้ระหกระเหเร่ร่อนออกเดินทางไปกับพ่อและได้ผูกโยงสายสัมพันธ์นับแต่วันที่เขาก้าวเข้ามาเป็นผู้รั้งชีวิตชารียาขึ้นจากความตายในครานั้น การเผชิญหน้าแต่ละคืนวันเวลา เรื่องราวที่มาคนแล้วคนเล่า ที่ผู้เขียนหยิบยกมาอย่างไม่ปะติดปะต่อ แต่กลับสร้างเสน่ห์ให้เราทำงานกับตัวอักษรและผูกเชื่อมโยงเอาเองตามความรู้สึกที่ฉวยคว้าได้ขณะโลดแล่นไปกับจินตภาพเหล่านั้น ความสัมพันธ์หลากหลายที่กลายมาเป็นความขัดแย้งของเรื่องราวยิ่งตอกย้ำความเป็นมนุษย์ได้อย่างถึงซึ้งเมื่อรับรู้ที่มาที่ไปทั้งหมดแล้ว ความสวยงามของถ้อยคำที่ครวญเล่าถึงท่วงทำนองจากบทเพลงอีกนับสิบชวนพาให้เรารู้สึกดื่มด่ำกับศิลป์เสียงเหล่านั้นผ่านตัวอักษรแทนการได้ยิน ความบรรยายถึงบรรยากาศแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในจากหนังสือก็ล้วนแจ่มชัดราวกับบทที่ถูกเขียนไว้เพื่อรอวันกลายไปเป็นภาพยนตร์สักเรื่อง และไม่แค่ตัวละครหลักที่ยืนแกนเท่านั้น หากแต่ผู้มีส่วนกอปรความสามัญก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกถึงตัวตนที่มีอยู่จริงสักแห่งสักที่บนโลกใบนี้ หรืออาจจะแทรกตัวอยู่ใต้บทบาทเบื้องหน้าที่ปรากฏของใครบางคนซึ่งพยายามบดบังไว้

ไม่เพียงแต่ความมืดบอดที่สมมติขึ้นในโลกของเรื่องเล่า ชวนย้อนให้คิดถึงตัวเราบางคนที่ย่อมมีช่วงเวลาของชีวิตที่คล้ายกับว่ามองอะไรไม่ออกและเดินกระท่อนกระแท่นไปบนเส้นทางซึ่งชนเข้ากับทางตันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง บางคราวก็ล่าถอยย้อนวนไปหาเส้นทางใหม่ ทว่าบางครั้งก็กลับสยบยอมกับกำแพงตระหง่านตรงหน้าด้วยไร้ทั้งเรี่ยวแรงและอาวุธในการถล่มทลายเพื่อก้าวเดินต่อ แต่การมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ดูจะเป็นคนละเรื่องกับการใช้ชีวิต ไส้เดือนที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพวกมันปราศจากดวงตา ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตอีกนับร้อยนับพันอย่างที่ดำรงอยู่ ก็ยังคงชอนไชไปข้างใต้โพรงดิน กัดกิน ขับถ่าย ย่อยสลาย สืบพันธุ์ ไปตลอดช่วงอายุขัยของมันที่ไม่สั้นไม่ยาวนัก บนโลกสับสน โลกที่มันคิดว่าเป็นทั้งหมดแล้วหากแต่แท้จริงเป็นเพียงแค่ส่วนเสี้ยว ลดเลี้ยวไปในเขาวงกตที่ไม่มีใครรู้ว่าระหว่างทางออกกับอายุขัยสิ่งใดจะมาถึงก่อน

และพวกมันก็คงไม่เคยคิดถึงสิ่งเหล่านี้

บางบทตอนจากนิยายถ่ายทอดถึงความเจ็บปวดรวดร้าวจนทำเอาเรารู้สึกเสียดเข้าไปในอก ประหนึ่งได้อ่านบทถ่ายทอดความระทมที่ประดังประเดทุบเทลงมาในตัวอักษรที่มีเรื่องราวแก่นแกนอันแข็งแรงด้วยมายาวาทศิลป์ซึ่งบรรจุความปวดปร่าเหล่านั้นเพื่อให้มันไม่กระจัดกระจายจนกลายเป็นความเพ้อคลั่ง และเราก็ได้แต่ปล่อยให้วิญญาณของเราเสพมันและทุรนทุรายเปล่าดายอยู่ในร่างกายที่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา

แล้วก็ปวดร้าวต่อไป รู้สึกรู้สาต่อไป เพราะชีวิตในบางขณะก็อนุญาตให้เราทำอยู่เพียงเท่านั้น เพื่อปลดปล่อยบางสิ่งภายในที่เราอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันก่อตัวขึ้นตอนไหน เมื่อไร และทำอย่างไรจึงจะดับสลายไปจนถึงต้นตอได้ ความชื่นชอบต่อนิยายเล่มนี้สำหรับเราคือการดื่มกลืนถ้อยคำพรรณนาและสัมผัสมวลความรู้สึกร้าวรานให้ยังรู้ตัวได้ว่าเรายังมีชีวิต

ใช่…เรายังมีชีวิต และจงใช้ชีวิตที่ไม่อาจย้อนคืนได้อีกเหล่านี้ต่อไปบนโลก

ความรู้สึก หลังอ่าน ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต รีวิว วีรพร นวนิยายซีไรต์

🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์

“ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต”

ผู้เขียน : วีรพร นิติประภา

จำนวนหน้า : 304 หน้า / ราคาปก : 279 บาท

สำนักพิมพ์ : ArtyHOUSE (ฉบับพิมพ์ล่าสุด)

หมวด : วรรณกรรม

หนังสือพัฒนาตนเอง รีวิว บทเรียนชีวิต หนังสือจิตวิทยา
หากปัญหาความสัมพันธ์ ความคิดความเชื่อ หรือการดำเนินชีวิตของคุณกำลังสะดุดติดขัด นั่นอาจเป็นสัญญาณให้คุณหยิบ 'แผนที่ชีวิต' ขึ้นมาปรับปรุงแก้ไข ร่วมปัดฝุ่นเส้นทางเดินชีวิตที่คุณเลือก ผ่านแนวคิดและบทเรียนของจิตแพทย์ที่ฝากไว้ ให้ทบทวนและตั้งคำถามใหม่กับตัวเองอีกครั้ง
พ.ย. 24, 2023
รีวิวหนังสือ ธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์ ไอเดีย การทำโฆษณา
เมื่อ "ความไม่รู้" ก็เป็นพลังสำหรับการคิดอย่างสร้างสรรค์ได้ ด้วยเรื่องเล่าอันทรงพลังและสอดแทรกแง่คิดในการสังเกตมุมมองที่ต่างออกไป ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นคู่มือที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าตกผลึกที่ชวนคุณขบคิดพร้อมตั้งคำถามไปตลอดทาง
พ.ค. 21, 2023
รีวิวหนังสือ เงียบ silence in the age of noise Erling Kagge
ชั่วขณะที่คุณอยากหลบพักจากเสียงตะโกนของโลกภายนอก มีสิ่งหนึ่งที่คุณเป็นเจ้าของและไม่เคยเรียกร้องให้คุณออกตามหา แต่เชื่อเถอะว่ามันคุ้มค่าที่จะใช้เวลาด้วย ...ชวนคุณค้นพบความเงียบภายใน สมบัติล้ำค่าที่ไม่ว่าใครก็มีในครอบครองไม่เหมือนกัน
เม.ย. 17, 2022
รีวิวหนังสือ กล้าที่จะถูกเกลียด 1
หลักจิตวิทยาระดับปัจเจกบุคคลที่ชวนเรียนรู้ตัวตนก่อนจะก้าวไปทำความรู้จักกับผู้อื่น ว่ากันว่าเมื่อได้รู้จักจิตวิทยาแบบแอดเลอร์หนึ่งครั้ง จะติดอยู่ในหัวไปทั้งชีวิต
ส.ค. 12, 2021