ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์บ้างเป็นความลึกลับที่ซุกซ่อนความเจ็บปวดไว้ในหลืบมุมที่ใดสักแห่ง
การเปิดเผยความเปราะบางนั้นเป็นความเสี่ยงอันยิ่งใหญ่เสมอ
แต่ด้วยคู่มือแห่งภาษาของความผูกพันเล่มนี้ อาจทำให้คุณค้นพบวิธีการเข้าถึงซึ่งกันและกันได้อย่างแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย และใช้สายใยแห่งความผูกพันในการเชื่อมต่อถึงกันและกันให้ลึกซึ้งกว่าเดิม
✒️ ประวัติผู้เขียน ดร.ซู จอห์นสัน (Dr.Sue Johnson)
Dr. Sue Johnson นักจิตวิทยาคลินิก นักวิจัยผู้คิดค้นรูปแบบการบำบัดชีวิตคู่แบบ EFT ได้รับรางวัลนักจิตวิทยาแห่งปีจาก American Psychological Association ในปี 2016 และรางวัลผู้สร้างคุณประโยชน์อันโดดเด่นแก่วงการบำบัดชีวิตคู่และครอบครัว (AAMFT) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาตราจารย์กิตติคุณสาขาจิตวิทยาคลินิก มหาวิทยาลัยแห่งออตตาวา อาจารย์สอนและวิจัยที่ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ผู้อำนวยการสถาบัน ICEEFT (International Centre for Excellence in Emotionally Focused Therapy) และที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมของแคนาดาและสหรัฐอเมริกา
🎯 มุมมองสรุป
: หนังสือว่าด้วยเรื่องความรักความสัมพันธ์ที่มุ่งเน้นการทำความเข้าใจความผูกพันทางด้านอารมณ์ในการรักษาสัมพันธภาพหรือผสานรอยร้าว นำเสนอในเชิงจิตวิทยาซึ่งมีการอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญและผลวิจัยต่าง ๆ ถ่ายทอดโดยนักจิตวิทยาที่ให้คำแนะนำอันประสบผลสำเร็จมาแล้วกับคู่รักจำนวนมาก ทำให้ข้อมูลภายในเล่มมีความน่าเชื่อถือ : เพราะในความเป็นจริง เรื่องของอารมณ์และความรู้สึกเป็นนามธรรมมาก แต่หลังจากได้อ่าน เราจะพบแบบแผนบางอย่างที่ทำงานภายใต้ความอ่อนไหวเหล่านี้ ซึ่งการปรับประยุกต์ใช้จากหนังสือภายในเล่ม ผู้อ่านจะได้รับแนวคิดและแนวทางปฏิบัติจากกรณีตัวอย่างของคู่รักอย่างหลากหลาย ทั้งคู่รักต่างเพศและเพศเดียวกัน : เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ภาค - ภาคแรกจะกล่าวถึงมุมมองทางความรักเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมการทำงานของความผูกพันทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นในสายสัมพันธ์หนึ่ง และชี้ชวนให้ทำความเข้าใจพื้นฐานการทำงานทางจิตวิทยาที่เน้นบำบัดทางด้านอารมณ์ (Emotionally Focused Therapy; EFT) ด้วยรูปแบบการสนทนาที่เน้นการตอบสนองวิธีการบำบัดดังกล่าว - ภาคที่ 2 จึงเริ่มลงรายละเอียดรูปแบบการสนทนา 7 รูปแบบ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะนำไปสู่การสานสัมพันธ์ให้มั่นคงไปจนกระทั่งการถนอมความสัมพันธ์ให้ยืนยาวยิ่งขึ้น - ภาคสุดท้าย จะเป็นบทสรุปแห่งการเชื่อมโยงความผูกพันระหว่างคู่รักและมุมมองการเยียวยารูปแบบความสัมพันธ์ที่เกิดรอยร้าว : เหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องการคู่มือในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักให้มั่นคง แข็งแรง ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้แก่คู่รักเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ชีวิตคู่ที่ตั้งใจไว้ หรือสำหรับคู่รักที่กำลังมองหาวิธีการทำงานเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ ฟื้นฟูชีวิตรัก ให้ก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยวิธีสร้างสายใยแห่งความผูกพันซึ่งกันและกัน : ท้ายบทจะมีแบบฝึกหัดถามตอบเพื่อตรวจสอบรูปแบบความสัมพันธ์ของตนเอง ตรวจสอบตัวเองหรือคู่รัก บางบทเรียนเป็นวิธีสร้างรูปแบบการทำงานเพื่อนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ตามความตั้งใจของผู้เขียนหนังสือ : เป็นหนังสือที่ต้องใช้เวลาในการอ่านและทำความเข้าใจอย่างยิ่ง แต่ด้วยเพราะมันมีวิธีการทำงานที่อ้างอิงกับผลการศึกษาและถูกถ่ายทอดโดยผู้เชี่ยวชาญ มันจึงคุ้มค่าที่จะทดลองหรือใช้เป็นคู่มืออ้างอิงด้านความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี : ส่วนตัวหลังจากอ่าน (คนเดียว) ได้เรียนรู้มุมมองทางความรักและรูปแบบการสนทนาที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนอย่างไม่เป็นพิษ นอกจากนี้ยังได้แนวคิดของการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในความรัก และยังได้สำรวจตัวเองด้วยว่าเราพร้อมมากแค่ไหนที่จะดำรงชีวิตคู่
เหตุผลที่แท้จริงของการเลิกรา
ใครหลายคนอาจเข้าใจว่าการเลิกราจำนวนมากเป็นเพราะคู่รักเกิดความขัดแย้ง ความคิดเห็นไม่ลงรอย การทะเลาะเบาะแว้ง ผลักไสไล่ส่ง ไปจนกระทั่งความเบื่อหน่ายในรสเพศ แต่หากลองมองลงไปให้ลึกกว่านั้น เราจะมองเห็นรูปแบบของการเลิกราหย่าร้าง ว่าเป็นผลมาจากที่คนสองคนในความสัมพันธ์มองข้ามเรื่องราวพื้นฐานอย่างเช่นความผูกพันทางด้านอารมณ์ เพราะเมื่อมาถึงจุด ๆ หนึ่งที่คู่รักไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร อย่างน้อยก็อาจไม่สนใจเท่าสิ่งที่ตนเองรู้สึก นั่นก็หมายถึงเวลาของจุดแตกหักที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
การบำบัดแบบ EFT และทฤษฎีของความผูกพัน
ผู้เขียนได้ใช้ประสบการณ์ในการทำงานให้คำปรึกษาแก่คู่รักและนำพาพวกเขาคืนสู่วงจรชีวิตคู่อีกครั้งด้วยการบำบัดที่มุ่งเน้นด้านอารมณ์ หรือ EFT (Emotionally Focused Therapy) มาถ่ายทอดเป็นบทเรียนอย่างครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นในการทำความเข้าใจมุมมองของความรัก ว่าโดยพื้นฐานทฤษฎีของความผูกพันได้ทำให้มนุษย์รู้สึกว่าคู่รักของเราคือที่พักพิงในชีวิต จึงต้องการการตอบสนองทางด้านอารมณ์มากกว่าในตัวบุคคลอื่น ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่อาจใช้วิธีบำบัดที่มองข้ามเรื่องราวเกี่ยวกับอารมณ์ในความสัมพันธ์ได้ และจะว่าไปก็อาจเป็นส่วนที่ยากที่สุดที่จะทำงานกับมันด้วย นั่นเพราะมันไม่ได้แข็งขันหยัดยืนได้ในทุกสถานการณ์ และมักมีความแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของบุคคลนั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คู่รักสองคนที่ย่อมต้องมีบาดแผลทางใจและความร้าวไหวไม่เท่ากันอย่างแน่นอน
แล้วเราจะมีวิธีการอย่างไรที่จะประสานคนสองคนให้แนบชิดและผูกพันกันไปให้ยาวนานที่สุดในชีวิตรัก?
วิธีสานสัมพันธ์ให้ครองรักกันอย่างยืนยาว
ผู้เขียนได้นำเสนอพื้นฐานของ EFT ด้วยการสนทนา 7 รูปแบบที่จะนำไปสู่การตอบสนองทางอารมณ์สำหรับคู่รัก ซึ่งเป็นการทำงานภายใต้องค์ประกอบใหญ่ 3 ส่วน ได้แก่ ความรู้สึกเข้าถึงกัน (Accessibility) การตอบสนองซึ่งกันและกัน (Responsiveness) และความชิดใกล้ทางอารมณ์ (Engagement) โดยการสนทนาทั้ง 7 รูปแบบที่ว่านี้ คือ
(1) การรู้จักบทสนทนาภาษาปีศาจ – คือ การเรียนรู้ถึงรูปแบบบทสนทนาที่สร้างความเสียหายให้กับชีวิตคู่ ซึ่งบางครั้งมันอาจเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจหรือเป็นเพราะความไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ จนมันกลายเป็นวงจรของการทำร้ายกันทางคำพูดไม่จบไม่สิ้น เมื่อทั้งสองฝ่ายเข้าใจรูปแบบการสนทนานี้ พวกเขาจะเริ่มรู้ตัวทันทีที่มันเกิด ทำให้วงจรปีศาจร้ายนั้นถูกปิดได้ทันเวลา
(2) การสนทนาหาจุดปวดร้าว – ในระดับนี้คือวิธีที่คนสองคนมองไปไกลกว่าปฏิกิริยาเฉพาะหน้าที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกมา ไม่ว่าจะเป็นความเย็นชาหรือการโมโห พวกเขาจะเริ่มทำความเข้าใจและสื่อสารถึงกัน
(3) การกลับไปพิจารณาช่วงเวลาที่เป็นปัญหา – เมื่อต่างฝ่ายต่างเริ่มสื่อสารถึงกันได้ พวกเขาจะร่วมมือกันในการมองเห็นและควบคุมการกระทบกระทั่งดังกล่าว เป็นการลดความตึงเครียดที่จะนำไปสู่การสนทนารูปแบบต่อไป
(4) การเผยความเปราะบาง ชิดใกล้ และเชื่อมโยง – ด้วยรูปแบบการสนทนานี้ พวกเขาจะเริ่มรู้สึกถึงกันมากขึ้นกว่าเก่า เข้าใจกันและกันยิ่งกว่าเก่า และเริ่มรู้สึกถึงการสร้างพื้นที่ปลอดภัยร่วมกันในความสัมพันธ์ ซึ่งการสนทนาแบบเผยความเปราะบางนี้เป็นฐานที่มั่นของการสนทนาในสามแบบสุดท้ายที่เหลือ
(5) การให้อภัยที่ทำร้ายกัน – ในส่วนนี้อาจเป็นส่วนที่ยากมากสำหรับคู่รักที่ความเชื่อใจและไว้วางใจกันถูกสะบั้นจนแหลกเหลว แต่ก็ยังไม่นับว่าเป็นทางตันเสียทีเดียว หากคนสองคนยังคงปรารถนาที่จะใช้ชีวิตคู่ พวกเขาจำเป็นจะต้องทำงานโดยอาศัยความร่วมมือกันมากกว่าเก่า และจะยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้นหากความเจ็บปวดและการสนทนารูปแบบปีศาจของพวกเขากลายเป็นปัญหาเรื้อรังไปแล้ว
(6) การผูกพันด้วยเพศสัมพันธ์และการสัมผัส – นับว่ามีความสำคัญไม่น้อยสำหรับชีวิตคู่ ซึ่งหากคู่รักที่สามารถสนทนาโดยเผยความเปราะบาง ชิดใกล้ และรู้สึกเชื่อมโยงถึงกันและกันได้ พวกเขาจะเข้าใจถึงวิธีการผูกพันนี้ได้อย่างไม่ยากอีกต่อไป และจะว่าไปแล้ว ความสัมพันธ์ที่มั่นคงปลอดภัยนี่เอง ที่จะนำพาให้คู่รักได้พบกับเพศสัมพันธ์อันโลดโผนและเร้าใจที่สุด
(7) การถนอมความรักให้ยืนนาน – หากคู่รักใส่ใจกันและกันมากพอ พวกเขาย่อมเรียนรู้รูปแบบการถนอมความรักเฉพาะตัวในแบบของคู่ตนเองได้ วิธีหนึ่งที่ผู้เขียนแนะนำคือการแยกปัญหาความผูกพันออกจากปัญหาทั่วไปในชีวิตก่อน และจัดการกับปัญหาส่วนแรก เพราะเมื่อพวกเขาเรียนรู้ที่จะเข้าหากันและสร้างความผูกพันที่มั่นคงแล้ว พวกเขาจะเกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ของความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว
ภาพรวมการทำงานของหนังสือ
ข้อสรุปกว้าง ๆ จากหนังสือข้างต้นจะช่วยให้เราเรียนรู้วิธีรักษาความสัมพันธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรมในสิ่งที่เรามักตีความมันอย่างนามธรรมมาเสมอ โดยในเนื้อหาแต่ละส่วนได้สอดแทรกทั้งคำแนะนำและกรณีตัวอย่างเพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจอีกจำนวนไม่น้อย แบบฝึกหัดท้ายบทมีส่วนช่วยให้เราเล็งเห็นตัวเองและคู่รักในความสัมพันธ์ได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าแค่อ่านเฉย ๆ และแม้ว่ากระบวนการสำคัญที่ต้องใส่ใจในการดูแลความสัมพันธ์นั้นเป็นกระบวนการทางด้านอารมณ์ระหว่างคู่รักที่ยากต่อการหยิบจับให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างได้ แต่หนังสือก็ช่วยชี้แนวทางให้เราเห็นภาพ ทำให้เรารู้สึกว่ามันสามารถใช้เป็นคู่มือชีวิตคู่ได้ดังที่มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้คำนิยมไว้จริง ๆ เพียงแต่ต้องอาศัยการทำงานอย่างมุ่งมั่นระหว่างคนสองคนในความรัก เพราะขึ้นชื่อว่าชีวิตคู่แล้ว ย่อมไม่ใช่การก้าวเดินของใครเพียงลำพัง หรือหากใครจะเริ่มเป็นฝ่ายตั้งใจที่จะรักษาสัมพันธภาพด้วยการศึกษามันก่อนเบื้องต้นก็ได้
และทันทีที่คุณเข้าใจ คุณอาจจะรู้ว่าใครควรได้รับอนุญาตให้เข้ามาในความสัมพันธ์นี้ร่วมกันกับคุณ
🛒 ซื้อหนังสือออนไลน์
“Hold Me Tight เธอเห็นความเปราะบางของฉันไหม”
ผู้เขียน : Dr. Sue Johnson
(เจิดจรัส แปล)
จำนวนหน้า : 360 หน้า / ราคาปก : 350 บาท
สำนักพิมพ์ : OMG BOOKS
หมวด : จิตวิทยา/พัฒนาตนเอง